กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกรติดตามสถานการณ์ฝนถล่ม แจงพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 4 แสนไร่ ลั่นพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรตามมาตรการรัฐ
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย ข้อมูล ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2561 จากรายงานสถานการณ์ล่าสุด พื้นที่การเกษตรประสบอุทกภัย จำนวน 19 จังหวัด ประกอบด้วย
จังหวัดที่ประกาศเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน แล้ว 8 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ น่าน สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และกาญจนบุรี
และพื้นที่การเกษตรที่ประสบอุทกภัยแต่ยังไม่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อีก 11 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ พะเยาตาก พิษณุโลก แพร่ เชียงราย มุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และบึงกาฬ
มีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนรวมทั้งสิ้น จำนวน 81,095 ราย
พื้นที่การเกษตรประสบภัย 497,590.50 ไร่ จำแนกเป็น
-ข้าว 454,298.25 ไร่
-พืชไร่ 39,358.50 ไร่
-พืชสวนและอื่นๆ 3,933.75 ไร่
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมาที่สุด ได้แก่
-ภาคอีสาน ได้รับผลกระทบมากที่สุด 9 จังหวัด รวมกว่า 4 แสนไร่
-ภาคเหนือ 9 จังหวัด รวมกว่า 4 หมื่นไร่
-ภาคตะวันตก กว่าพันไร่ ตามลำดับ
ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายอย่างต่อเนื่อง
สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ มีหลักเกณฑ์ช่วยเหลือเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้ก่อนเกิดภัย ตามจำนวนพื้นที่จริงที่ได้รับความเสียหาย รายละไม่เกิน 30 ไร่ ได้แก่
1.ข้าว อัตราไร่ละ 1,113 บาท
2.พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท
3.พืชสวนและอื่น ๆ อัตรา ไร่ละ 1,690 บาท
ทั้งนี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติ และผู้ว่าราชการจังหวัดจะประกาศเขตพื้นที่ การให้ความช่วยเหลือฯ เกษตรกรต้องยื่นแบบความจำนงขอรับการช่วยเหลือ (กษ 01) โดยให้ผู้นำท้องถิ่นรับรอง ก่อนจะมีการตรวจสอบทะเบียนเกษตรกร และพื้นที่เสียหายจริง เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการและกำชับเจ้าหน้าที่ของส่งเสริมการเกษตรระดับพื้นที่ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบให้รวดเร็วที่สุด