อย่างนี้นี่เอง ก.ยุติธรรม แจงทำไมจึงถอด “ข้าวหมาก” จากพรบ.สุรา

จากกรณีที่ นางเสน่ห์ ป่วงรัทย์ อายุ 60 ปี แม่ค้าขายข้าวหมาก ได้ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อน และรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเขตพื้นที่จ.บุรีรัมย์ ในข้อหาจำหน่ายเหล้าสาโท โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเรียกค่าปรับสูงถึง 5 หมื่นบาท โดยมีการต่อรองค่าปรับลดลงเหลือ 3 หมื่นบาทและลดลงเหลือแค่ 1 หมื่นบาทเพื่อแลกกับการปล่อยตัว ต่อมา สรรพสามิต แจงว่าที่จับกุมเพราะขายสาโท ไม่ใช่ข้าวหมาก

ล่าสุด นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ข้อมูลว่า ข้าวหมักหรือข้าวหมาก ถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งในปัจจุบันไม่ผิดกฎหมายแล้ว เพราะกฎหมายได้แยกลูกแป้งข้าวหมาก ที่เป็นส่วนผสมสำคัญ ออกจากพรบ.สุรา และส่วนผสมก็มีไม่มาก โดยลูกแป้งข้าวหมาก จะมีเชื้อราสกุล Mucor sp., Amylomyces rouxii , Rhizopus oryae ที่เป็นคุณประโยชน์ ทำหน้าที่สร้างเอนไซม์อมิเลสออกมาย่อยแป้งข้าวเหนียวให้เป็นน้ำตาล หลังจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของยีสต์ ที่หมักน้ำตาลในข้าวหมากกลายเป็นแอลกอฮอล์ จะให้ความหวานมากกว่าแอลกอฮอล์

ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีมติถอดแป้งข้าวหมากออกจาก พรบ.สุราฯ แล้ว เนื่องจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า แป้งข้าวหมักมีลักษณะที่ไม่ใช่เชื้อสุราในตัวเอง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง จึงสามารถจำหน่ายนอกพื้นที่ที่ยื่นขออนุญาตได้ ส่วนเรื่องที่กังวลว่าจะนำไปผลิตสุราเถื่อน รองก.ยุติธรรม กล่าวว่า ไม่ต้องห่วง เพราะการผลิตสุราเถื่อนไม่นิยมนำแป้งข้าวหมักมาใช้เพราะดูแลยาก ต้องคอยคุมอุณหภูมิ ไม่คุ้มต้นทุน