svasdssvasds

สัญญาต้องเป็นสัญญา!หนุ่มเดินเท้าจากตรังนำอัฐิภรรยาไปอินทนนท์

สัญญาต้องเป็นสัญญา!หนุ่มเดินเท้าจากตรังนำอัฐิภรรยาไปอินทนนท์

ชายวัย 39 ปี พาอัฐิภรรยาเดินนาน 1 ปี 7 เดือน จากตรังพร้อมสุนัข 2 ตัว มุ่งหน้ายอดดอยอินทนนท์ หวังพาเที่ยวยอดดอยสูงสุดในประเทศตามคำสัญญา

นายศักดิ์ชัย สุพันธมาตย์ อายุ 39 ปี ชาวบ้านหนองไผ่ ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เดินเท้าเข็นรถเข็นพาอัฐิภรรยา พร้อมอาหารน้ำดื่มและอุปกรณ์ยังชีพ เดินทางพร้อมกับเจ้ากระเช้าและนะโม สุนัขคู่ใจ ไปตามถนนเชียงใหม่-ฮอด โดยมีเป้าหมายคือยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ตลอดเส้นทางมีชาวบ้านออกมามอบน้ำดื่ม อาหาร และ เงิน ร่วมเป็นกำลังใจ

สัญญาต้องเป็นสัญญา!หนุ่มเดินเท้าจากตรังนำอัฐิภรรยาไปอินทนนท์

นายศักดิ์ชัย เล่าว่าตัวเองและภรรยาเป็นคนจังหวัดอุดรธานี ก่อนหน้านี้ได้ออกจากบ้านเกิด พากันไปทำงานก่อสร้างหลายจังหวัดทางภาคใต้ หวังเก็บเงินสร้างฐานะ ที่ผ่านมารักภรรยามาก ไปไหนด้วยกันตลอด ภรรยาเคยบอกว่าอยู่แต่ภาคใต้ อยากจะไปเที่ยวดอยอินทนนท์สักครั้งในชีวิต แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีโอกาสได้พาไปเที่ยวตามความตั้งใจ กระทั่งวันที่ 6 ตุลาคม 2559 ระว่างทำงานที่จังหวัดตรัง ภรรยาถูกสุนัขกัดจนติดเชื้อและเสียชีวิต จึงตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง ออกเดินทางจากจังหวัดตรัง ตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ตั้งใจนำอัฐิภรรยาเดินทางไปเที่ยวและทำบุญตามวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามจังหวัดต่าง ๆ ที่ผ่านมาเดินทางแบบค่ำไหนนอนนั่น โดยมีเป้าหมายที่ยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ภรรยาอยากจะไปมากที่สุดในขณะยังมีชีวิต โดยตั้งใจนำอัฐิทำบุญประกอบพิธีทางศาสนา ก่อนจะนำอัฐิส่วนหนึ่งโปรยบนยอดดอยเพื่อสานฝันให้กับภรรยา

สัญญาต้องเป็นสัญญา!หนุ่มเดินเท้าจากตรังนำอัฐิภรรยาไปอินทนนท์ สัญญาต้องเป็นสัญญา!หนุ่มเดินเท้าจากตรังนำอัฐิภรรยาไปอินทนนท์ สัญญาต้องเป็นสัญญา!หนุ่มเดินเท้าจากตรังนำอัฐิภรรยาไปอินทนนท์ สัญญาต้องเป็นสัญญา!หนุ่มเดินเท้าจากตรังนำอัฐิภรรยาไปอินทนนท์

จนถึงวันนี้เดินทางมาแล้ว 1 ปี 7 เดือน มากกว่า 2,000 กิโลเมตร ไม่เคยรู้สึกเหนื่อย แต่สุขใจที่ได้ทำตามความตั้งใจ ที่สำคัญไม่ได้ต้องการเดินขอรับบริจาคเงิน แต่ก็ไม่ขัดขวางความตั้งใจของชาวบ้านที่มอบให้ ซึ่งเงินที่ได้มาจะรวบรวมนำไปทำบุญให้กับภรรยาและหลังจากภารกิจเสร็จสิ้นจะกลับบ้านเกิดที่จังหวัดอุดรธานีเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป

 

related