svasdssvasds

รับมือฝนระลอกใหญ่! ตกหนักหลายพื้นที่

รับมือฝนระลอกใหญ่! ตกหนักหลายพื้นที่

ศูนย์เฉพาะกิจฯ เตือน 4 วันฝนตกหนักต่อเนื่องถึง 10 กย.นี้ เบื้องต้นในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้วางแผนปรับลดการระบายน้ำในอ่างฯ ทุกขนาด

นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในภาพรวมของประเทศขณะนี้ว่า จากการคาดการณ์แนวโน้มฝนในวันนี้ (7 ก.ย.61) ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 10 ก.ย. 61 จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะแรก กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เนื่องจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ทำให้ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง

ศูนย์เฉพาะกิจฯ ได้เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศและฝนอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาวางแผนการบริหารจัดการน้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนให้เหมาะสมและทันต่อสถานการณ์ ซึ่งภาวะฝนที่ตกหนักในช่วงดังกล่าวคาดจะส่งผลดีต่อเขื่อนหลายแห่งที่ยังมีน้ำปริมาณน้อย ส่วนเขื่อนที่มีปริมาณน้ำมากอยู่แล้วได้เตรียมแผนในการพร่องน้ำต่อเนื่องไว้แล้วเช่นกัน

เบื้องต้นในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้วางแผนปรับลดการระบายน้ำในอ่างฯ ทุกขนาด ตามการคาดการณ์ที่ปริมาณน้ำฝนที่มีแนวโน้มลดลงในเดือน ก.ย. -ต.ค. 61 เพื่อเก็บกักน้ำให้พอเพียงในฤดูแล้ง โดยอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 60% ของความจุ ต้องวางแผนเก็บกักน้ำและเติมน้ำโดยประสานกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขณะที่พื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ให้ติดตามการพยากรณ์อากาศในช่วง

ก.ย. นี้ เพื่อวางแผนปรับการระบายน้ำในแม่น้ำสายหลัก

ส่วนในพื้นที่ภาคตะวันตก ใน 4 เขื่อนขนาดใหญ่ ได้แก่ เขื่อนศรีนครินทร์ วชิราลงกรณ แก่งกระจาน และปราณบุรี ยังคงต้องเร่งการพร่องน้ำ ตามการคาดการณ์ฝนที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและรองรับฝนตามฤดูกาลในปลายเดือน ก.ย.-ต.ค. 61 โดยต้องไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำหรือหากมีต้องเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด

นายสำเริง กล่าวเพิ่มเติมอีกถึงพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมปัจจุบัน ได้แก่ ลำน้ำก่ำ ลำน้ำสงคราม ลำน้ำอูน แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ แม่น้ำปราจีนบุรี บริเวณ อ.ศรีมหาโพธิ์ อ.เมืองปราจีนบุรี อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี แม่น้ำนครนายก จ.นครนายก และแม่น้ำเข็ก จ.พิษณุโลก

ขณะที่สถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยาได้ลดการระบายน้ำลงให้สอดคล้องกับการลดการระบายน้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ทั้งนี้ กรมชลประทานจะควบคุมอัตราการระบายให้อยู่ที่ 650 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันอัตราการระบายอยู่ที่ 771 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้พื้นที่ท้ายน้ำได้รับผลกระทบน้อยลงด้วย

related