ยกนิ้วให้นาง!! “ดับเบิ้ลซีไรต์” หญิงไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ของ “วีรพร นิติประภา”

ถือเป็นนวนิยายที่เข้มข้น จนได้รางวัลดีเด่น ประเภทนวนิยาย ประจำปี 2560 จาก สพฐ. และรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 เซเว่นบุ๊คอะวอร์ด ครั้งที่ 14 ประจำปี 2560 มาครอง

ล่าสุดขอชื่นชมความสามารถในการประพันธ์ เมื่อ”พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ” ของ วีรพร นิติประภา เข้ารอบคัดเลือกรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน จนได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการให้ได้รับรางวัลชนะเลิศ วรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน ประเภทนวนิยาย ประจำปี พ.ศ. 2561 หรือรางวัลซีไรต์ไปครอง

ผลงานของวีรพร ถือได้ว่าป็นนักเขียนซีไรต์คนล่าสุด  นักเขียนดับเบิลซีไรต์คนที่ 3 ของไทย และเป็นนักเขียน “ดับเบิลซีไรต์” หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์

เนื้อเรื่องของนวนิยายเรื่องนี้ บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวชาวจีนที่อพยพมาอยู่ในเมืองไทยครอบครัวหนึ่ง ผ่านสายตาและความทรงจำที่แหว่งวิ่นจนเกือบไม่ปะติดปะต่อของผู้เล่าเรื่อง ที่เป็นสมาชิกในครอบครัวรุ่นหลัง สะท้อนทั้งความเศร้า ความสุข ความแค้น ความโลภ ความเห็นแก่ตัว ความเสียสละ ความหวังอันเรืองรองและริบหรี่ รวมทั้งอารมณ์ความรู้สึกอีกมากมายมหาศาลที่ขับเคลื่อนให้ชีวิตดำเนินต่อไป

วีรพร บอกถึงที่มาของ“พุทธศักราชอัสดงฯ” ว่า เริ่มต้นจากอยากจะทำเรื่องสักเรื่องที่เล่าประวัติศาสตร์ของคนจีน ปัญหาของการเผชิญหน้ากับผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดของเรา คือการอพยพของคนจีนโพ้นทะเลเข้ามาในประเทศไทยเรา แต่พอลงมือเขียนก็อยากจะเล่าหลายๆ เรื่องพร้อมกัน คือเล่าเป็นสิบเรื่องพร้อมกันในหนึ่งเล่ม ซึ่งตอนแรกเรายังไม่รู้วิธีทำ ไม่รู้วิธีการเล่า จึงพักไว้แล้วไปเขียน “ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต” ก่อน

สำหรับเรื่องนี้ต้องหาสโคปให้อยู่ (ขอบเขตของเรื่องที่จะเล่า) เพราะมีเส้นเรื่องเยอะ เรื่องจะพูดก็มีมาก พอเขียนเป็นเรื่องย้อนยุคมันก็จะมีมิติทางด้านประวัติศาสตร์เข้ามาด้วย คือเราจะมองประวัติศาสตร์ หรือเราจะอ่านประวัติศาสตร์อย่างไร? ซึ่งประวัติศาสตร์ที่หายไปคือประวัติศาสตร์ของเรื่องเล่า ประวัติศาสตร์ของความรู้สึก ประวัติศาสต์ที่ผลักดันเรามาสู่จุดที่เราอยู่ คือไม่ใช่ประวัติศาสตร์กระแสหลักอย่างเดียว เรื่องที่เล่านี้ บางส่วนจะผ่านมาจากครอบครัวทางบ้านแม่ด้วย ครอบครัวของตัวเองที่เห็นความยุ่งเหยิง ของเส้นสายและความเชื่อบางอย่างอยู่ในนั้นด้วย