คดีการจับกุมนักล่าสัตว์ป่าสงวนเคยมีให้เห็นแล้วหลายต่อหลายครั้ง จนเป็นข่าวโด่งดัง ซึ่งมักจะมีชื่อของผู้มีอำนาจมีเอี่ยวเป็นหนึ่งในผู้ล่าด้วย วันนี้เราจะพาไปย้อนเหตุการณ์ คดีจับกุมผู้ลักลอบฆ่าสัตว์ป่าสงวนที่แสนสะเทือนไพร
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีเฮลิคอปเตอร์ของทางราชการตก ในพื้นที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม เมื่อเข้าตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต 6 ราย ติดอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ และยังพบซากสัตว์ป่าอีกหลายชนิด รวมถึง
“กระทิงป่า” สัตว์สงวนหายากในขณะนั้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจเป็นกลุ่มของพรานป่าที่แอบเข้ามาล่าสัตว์ และมีชื่อของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้อง
แต่ทางจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีในยุคนั้น ได้ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ไม่ได้เข้ามาล่าสัตว์ แต่บินมาทำภารกิจลับทางราชการ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ นายพลเนวิน ประธานสภาปฏิวัติแห่งประเทศเมียนมา ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย ซึ่งจากคำชี้แจงนี้ กลายเป็นแรงผลักดันให้เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาขึ้น จากความไม่พอใจของประชาชน และยังเป็นที่มาของหนังสือ “บันทึกลับจากทุ่งใหญ่” ที่จัดทำขึ้นโดยนักศึกษา เพื่อเปิดโปงขบวนการล่าสัตว์ในเขตพื้นที่ทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี
เมื่อเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้รับแจ้งเหตุว่า มีขบวนการล่าสัตว์ลักลอบเข้าไปในเขตพื้นที่ทุ่งใหญ่นเรศวร บริเวณห้วยเซซาโว่ หลังบุกเข้าไปตรวจสอบ พบพรานป่า 14 คน และอุปกรณ์ทำครัว พร้อมหลักฐานเป็น ต้มยำเครื่องในสัตว์ เนื้อเก้ง และอาวุธปืน 2 กระบอก นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบประวัติของทั้ง 14 คน พบว่ามีข้าราชการครูระดับซี 8 จากโรงเรียนดังของจ.กาญจนบุรี เข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นผู้นำขบวนล่าวสัตว์ป่าสงวนครั้งนี้ด้วย
หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 11 (ไทยสามัคคี) อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา นำกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เข้าจับกุมแก๊งลักลอบฆ่าสัตว์ป่าสงวน 2 ราย คือนายสุขะชัย ศุภศิริ หัวหน้ากลุ่มงานสาระการเรียนรู้ศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และนายศินพ บุตรเนียน ผู้รับเหมาก่อสร้าง ในพื้นที่ป่าโป่งเกต แนวรอยต่อ อ.ครบุรี-อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พร้อมหลักฐาน ซากเลียงผา ไก่ป่า อาวุธปืน และกระสุนจำนวนหนึ่ง
โดยนายสุขะชัย ยอมรับว่าเข้าไปในป่าจริงแต่ไม่ใช่เพื่อล่าสัตว์ เพียงแค่มาตั้งแคมป์กับศิษย์เก่าที่จบไปนานแล้ว ยืนยันว่าไม่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสงวน และซากสัตว์ที่เจอเป็นเพียงซากที่เก็บมาระหว่างทาง
เจ้าหน้าที่จับกุมแก๊งล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พบผู้ล่าสัตว์จำนวน 9 คน และหนึ่งในแก๊งมีชื่อของ พ.ต.ท.อดีตสารวัตรสืบสวนสภ.ปราณบุรี รวมอยู่ด้วย พร้อมพบซากสัตว์ป่า ทั้งตะพาบน้ำ จำนวน 2 ขา ขนเม่น ขนกระตง เนื้อและขากบทูด (กบภูเขา) กว่า 100 ตัว รวมถึงหลักฐานรูปถ่ายขณะกำลังตั้งแคมป์และนำสัตว์มาปรุงอาหาร ซึ่งในตอนแรกเจ้าหน้าที่ยังไม่สั่งฟ้อง จนต้องมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวน สุดท้ายศาลฎีกาพิพากษาจำคุก อดีตสารวัตรสืบสวน 10 เดือน ส่วนผู้ร่วมขบวนการได้รับโทษลดหลั่นกันไป
โด่งดังไปทั้งโซเชียลและยังมีการออกมาเรียกร้องกันเป็นระยะ หลังเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์สัตว์ป่ามหาราช เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก นำกำลังเข้าจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี ประธานบริหารบริษัทอิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คน ลักลอบเข้าตั้งแคมป์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสงวนทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก บริเวณห้วยปะชิ พร้อมของกลางพบ ซากไก่ฟ้าหลังเทา กับเนื้อเก้ง และซากเสือดำถูกชำแหละเนื้อและหนัง กับเครื่องกระสุนปืนจำนวนมากถูกซ่อนไว้ โดยมีข้าราชการระดับสูงช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าไปตั้งแคมป์ เบื้องต้น นายเปรมชัย ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยระบุว่าเพียงเดินทางมาท่องเที่ยวเท่านั้น
และล่าสุดกับคดีปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย เข้าป่าอุทยานแห่งชาติไทรโยค และถูกเจ้าหน้าที่จับกุม พร้อมกับซากอุ้งเท้าหมีขอ และปืนไรเฟิลติดลำกล้อง ซึ่งคณะล่าสัตว์ยังปฏิเสธข้อกล่าวหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน! จับประธานอิตาเลียนไทย ล่า”เสือดำ” กลางป่าทุ่งใหญ่ฯ
ย้อนตำนาน! ยกทัพล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ “ขบวนการคนมีสี” ชนวนเหตุจลาจล 14 ตุลาฯ 2516
Breakingnews : รวบปลัดอำเภอ- อส. ยกแก๊งออฟโรดล่าหมีขอ กลางป่าไทรโยค
ต้องโปร่งใส “ผู้ว่าฯกาญจน์” สั่ง 3 มือยิงสัตว์ออกราชการ ป้องกันยุ่งสอบคดี [คลิป]