เสริมเขี้ยวเล็บ ปฏิบัติการพิเศษ ฝ่ายปกครอง 76 จังหวัด
เสริมเขี้ยวเล็บ "ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง 76 จังหวัด” รุ่นที่ 2 เทียบชั้น “ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง”
กรมการปกครอง ดำเนินการโครงการฝึกอบรม “โครงการฝึกอบรมจัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองระดับจังหวัดในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และรักษาความสงบเรียบร้อย” เพื่อเพิ่มทักษะความรู้ด้านกฎหมาย ที่เป็นเทคนิคเฉพาะของฝ่ายปกครอง รวมทั้งการฝึกยุทธวิธีตามมาตรฐานสากล ซึ่งถือเป็นการปกปิดจุดอ่อน พัฒนาจุดแข็งให้กับพนักงานฝ่ายปกครอง ซึ่งถือเป็นรุ่นที่ 2 ของปีนี้
โดยผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมในครั้งนี้ได้รับการคัดเลือกพิเศษมาจากทั่วประเทศ ต้องเป็นเจ้าพนักงานปกครองหรือปลัดอำเภอ ระดับปฏิบัติการขึ้นไป เช่น ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัด หรือรองผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัด หรืออำเภอ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัด และปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวถึงจุดอ่อนของผู้บังคับใช้กฎหมายที่มีผลกระทบต่อการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดว่า “จุดอ่อนสำคัญที่เป็นปัญหาของผู้บังคับใช้กฎหมาย คือ การขาดองค์ความรู้และความเข้าใจในองค์ประกอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งวิธีการแสวงหา รวบรวมพยานหลักฐานแบบหวังผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินคดี รวมทั้งขาดการทักษะในการวางแผนปฏิบัติการ ทีมวิทยากรจึงได้พัฒนาหลักสูตร ถ่ายทอดองค์ความรู้จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ทั้งหมด เพื่อปิดจุดอ่อนและพัฒนาจุดแข็ง ให้สามารถดำเนินคดีได้จริง และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตัวจริง เพื่อหวังผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินคดีอย่างแท้จริง”
นายรัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา 1 ส่วนการสอบสวนคดีอาญา ระบุถึงหลักสูตรในการอบรวมครั้งนี้ว่า แบ่งความสำคัญออกเป็น 3 ส่วน คือ
1 การสืบสวน ใช้วิธีการถ่ายทอดแบบ Learning by Doing เรียนรู้และลงมือทำ โดยผู้เข้าอบรมต้องลงพื้นที่จริง แล้วนำข้อมูลที่ได้จากการสืบสวนมาทำเป็นแผนปฏิบัติการ
2.การฝึกยุทธวิธี จับกุม ปราบปราม ตรวจค้น ในมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งเป็นการฝึกในภาคสนามตั้งแต่การใช้อาวุธปืน การเผชิญเหตุ การเอาตัวรอดของเจ้าหน้าที่ การควบคุมยานพาหนะ คนร้าย รวมถึงการต่อสู้กับคนร้ายในระยะประชิด หรือการเข้าตรวจค้นในอาคาร โดยทีมวิทยากรพิเศษจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DAI ร่วมกับ DOPA S.W.A.T.ทั้งภาคกลางวันและกลางคืน
3. การฝึกในสถานการณ์จำลอง หรือ Simulation คือ สร้างโจทย์จำลองสถานการณ์เสมือนจริง ให้ผู้อบรมฝึกการสืบสวนปราบปราม แบ่งหน้าที่การเผชิญเหตุ ควบคุมสถานการณ์ ตั้งข้อหา รวบรวมพยานหลักฐานจนถึงขั้นตอนทำบันทึกการจับกุม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่าจะสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้หรือไม่ ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบสวน ตรวจสอบว่า สามารถดำเนินคดีจริงได้หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการฝึกอบรมในวิชาสำคัญ ได้แก่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวมทั้งการบริหารจัดการสื่อด้วย
