svasdssvasds

ประวัติอื้อ! รวบหัวหน้าแก๊งตัดไม้พะยูง อีสาน

ประวัติอื้อ! รวบหัวหน้าแก๊งตัดไม้พะยูง อีสาน

รวบหัวหน้าแก๊งมอดไม้เลือดพะยูงอีสาน เหิมเกิมยิงสู้ ประวัติเพียบ หมายจับ รวม 11 หมาย

กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. ช สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.อนุชา ธนะอุดม, พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป, พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล

เข้าจับกุมตัว นาย ธวัชชัย จันสมุทร อายุ31 ปี บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่1 ต.หนองบอน อ.ประโคนชัย จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหา “ร่วมกันทำไม้หวงห้าม หรือทำอันตราย ด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย และร่วมกันพยายามลักทรัพย์ ของผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

สืบเนื่องจากช่วงเดือน พ.ย.61 ที่ผ่านมา มีกลุ่มลักลอบตัดไม้พะยูง ในภาคอีสาน ได้ลักลอบตัดไม้พะยูงในหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารจึงได้ร่วมกันเฝ้าระวังและออกสืบสวนหาข่าวเรื่อยมา แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมได้ ต่อมาเมื่อ 28 พ.ย.61 มีกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้พะยูง ร่วมกันลักลอบตัดไม้พะยูงภายในวัดบ้านกู่ศรัทธาราม ต.เพี้ยราม อ.เมือง จว.สุรินทร์ และเหิมเกิมยิงต่อสู้กันกับกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ผู้ต้องหาถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย( นายฤทธิไกร ทรัยพ์สถิต หรือโอ เพื่อนร่วมแก๊งต์ ) และถูกจับกุมในที่เกิดเหตุรวม 4 ราย หลบหนีไปได้ 3 ราย โดยหนึ่งในผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้นั้น มีนายธวัชชัย หรือปอนด์ จันสมุทร หัวหน้าแก๊ง รวมอยู่ด้วย

หลังเกิดเหตุ ผบช.ก. จึงสั่งการให้ ผกก.3 บก.ป. ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสาน ออกทำการสืบสวนจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดที่ยังหลบหนีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไม่คาดคิดว่า กลุ่มมอดไม้จักเหิมเกิม ใช้อาวุธต่อสู้กับตำรวจ ทหาร เป็นที่หวาดกลัวของประชาชนในอีสานไปทั่ว

จากการสืบสวน ตรวจสอบประวัติ พบว่า นายนายธวัชชัย หรือปอนด์ จันสมุทร หัวหน้าแก๊งก่อฉกรรจ์รายนี้

1.หมายจับศาลจังหวัด บุรีรัมย์ ที่ ๓๓๑/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ เลขคดีอาญาที่ ๓๕๑/๒๕๖๑ ข้อกล่าวหาร่วมกันทำไม้หวงห้ามหรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามซึ่งยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายและร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

2.หมยจับของศาลจังหวัดรัตนบุรี ที่ ๓๖/๒๕๖๑ลงวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๑ เลขคดีอาญาที่ ๑๖๘/๒๕๖๑ ข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีไม้หวงห้าม อันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง

โดยไม่มีรอยตรา ค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย ร่วมกันมีเลื่อยไฟฟ้าไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

3.หมายจับ ศาลจังหวัดนางรอง ที่ ๒๐๖/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๔ธันวาคม ๒๕๖๑ เลขคดีอาญาที่ ๑๖๙/๒๕๖๑ ข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์(ไม้พยุง) ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกันทำไม้หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต

4.หมายจับ ศาลจังหวัดนางรองที่ ๒๑๕/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๔ธันวาคม ๒๕๖๑ เลขคดีอาญาที่ ๒๑๔/๒๕๖๑ ข้อกล่าวหา ร่วมกันทำไม้ หรือเจาะหรือสับ หรือเผา หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย

5.หมายจับ ศาลจังหวัดนางรองที่ ๒๐๘/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๔ธันวาคม ๒๕๖๑ เลขคดีอาญาที่ ๕๐๑/๒๕๖๑ ข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกันทำไม้หรือทำอันตราย ด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต

6.หมายจับ ศาลจังหวัดนางรองที่ ๒๐๖/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ เลขคดีอาญาที่ ๑๖๙/๒๕๖๑ ข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์(ไม้พยุง)ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมร่วมกันทำไม้หรือทำอันตรายแก่ไม้ด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต

7.หมายจับ ศาลจังหวัดนางรองที่ ๒๑๕/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ เลขคดีอาญาที่ ๒๑๔/๒๕๖๑ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันทำไม้ หรือเจาะหรือสับ หรือเผา หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย

8.หมายจับ ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ที่ ๓๖๕/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ เลขคดีอาญาที่ ๑๔๙/๒๕๖๑ ข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ร่วมกันทำไม้ หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต

9.หมายจับ ศาลจังหวัดสุรินทร์ที่ ๑๓๓/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เลขคดีอาญาที่ ๑๖๐/๒๕๖๑ ข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี ทำไม้หวงห้าม(ไม้พะยูง) และมีไม้หวงห้าม (ไม้พะยูง) ที่ยังไม่ได้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีซ่อนเร้น จำหน่ายหรือพาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หวงห้ามที่ตนรู้อยู่แล้วว่าได้มาจากการกระทำความผิดร่วมกันกับพวกที่หลบหนี่มีและใช้เลื่อยโซ่ยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันลักทรัพย์(ไม้พะยูง) ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธปืนหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือโดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไปและร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่

10.หมายจับ ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ที่ ๓๔๑/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ เลขคดีอาญาที่ ๓๐๑/๒๕๖๑ ข้อกล่าวหา ร่วมกันทำไม้หรือทำอันตรายใดๆแก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต

11.หมายจับ ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ที่ ๓๔๕/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ เลขคดี อาญาที่ ๑๙๗/๒๕๖๑ ข้อกล่าวหา ร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย โดยได้ไม้นั้นมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปพยายามลักทรัพย์ของผู้อื่น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ฯลฯ รวม 11 หมาย

จนมาในวันนี้ (19 ธ.ค.61) เวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.  ได้สืบสวนทราบว่านาย ธวัชชัย จันสมุทร อายุ31 ปี บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 1 ต.หนองบอน อ.ประโคนชัย จ.ชัยภูมิ ได้หลบหนีมาพักอยู่บ้านของนาง คำอุ่น ทองศรี หรืออุ่น ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเข้วา จ.ชัยภูมิ  ซึ่งเป็นญาติห่างๆ กับแฟน ผู้ต้องหา จึงได้ เดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่๙ ชื่อนายพรมมา เมตตาชาติ เมื่อไปถึงบริเวณหน้าบ้านพบนางคำอุ่น ทองศรี นั่งอยู่บริเวณใต้ถุนบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม

สอบถามนาง คำอุ่น จึงได้ให้นางคำอุ่น พาขึ้นไปดูบนบ้านนางคำอุ่น จึงสมัครใจยินยอม พาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ขึ้นไปดูบนบ้าน จึงพบผู้ต้องหาคือ นาย ธวัชชัย หรือ ปอน จันสมุทร หลบอยู่ในตู้เสื้อผ้า บนบ้าน จึงได้ทำการควบคุมตัว ผู้ต้องหาและแจ้งให้นาย ธวัชชัย หรือปอน จันสมุทร ทราบว่าเป็นบุคคลผู้มีหมายจับและต้องถูกจับกุม นายธวัชชัย หรือปอน จันสมุทรรับทราบ ได้ตรวจดูหมายจับและอ่าน จนเข้าใจดีแล้วรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริงไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งว่าทำการจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระสัง จว.บุรีรัมย์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การ “รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ”

related