"นายกฯ" ตั้งศูนย์ติดตามพายุปาบึก ตลอด 24 ชม. บนตึกไทยคู่ฟ้า

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือพายุโซนร้อนปาบึกว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานมีความพร้อม ทั้งในส่วนของกระทรวงมหาดไทย เหล่าทัพ และหน่วยงานต่างๆ โดยมีศูนย์บัญชาการหลักอยู่ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย

ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความางบแห่งชาติ หรือ คสช. มีศูนย์กำกับเพื่อติดตามการทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนของพื้นที่นั้นได้เตรียมการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไว้แล้วเช่นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชได้อพยพประชาชนไปกว่า 10,000 คนแล้ว

จากการสำรวจที่มีประชาชนถึง 28,000 คน และในพื้นที่อื่น ๆ ก็ได้ทยอยในการอพยพเหลือเพียง เจ้าหน้าที่อาสารมัคร เจ้าหน้าที่ทหาร และผู้เกี่ยวข้องในการดูแลบ้านเรือนเท่านั้น

พลเอกอนุพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นในพื้นที่ได้มีการแจ้งเตือนประชาชน โดยใช้การสื่อสารในทุกรูปแบบ ทั้งการกระจายข่าว ผ่านทางหอ กระจายข่าวหมู่บ้าน และวิทยุสื่อสารของกองทัพ รวมถึงภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมือในเรื่องของอุปกรณ์การสื่อสารการแจ้งเตือนภัย ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ และแอพพลิเคชันไลน์

ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าทุกฝ่ายได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว ซึ่งจะต้องเฝ้าติดตามความเร็วลมในช่วง 3-5 วันนี้ เพราะคาดการณ์ว่าจะมีแรงลมเพิ่มขึ้น มากกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมถึงเร่งระบายน้ำในเขื่อนที่สำคัญ แต่จะไม่ให้กระทบในช่วงหน้าแล้ง เพราะจะต้องมีการกั๊กเก็บน้ำไว้ ใช้อุปโภค และบริโภค

พลเอกอนุพงษ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีความกังวลในเรื่องของบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมชายฝั่งทะเลที่มีความไม่แข็งแรง จึงได้มีการเตรียมการในเรื่องของการฟื้นฟูไว้ ซึ่งในเรื่องนี้นายกฯได้ให้ความสำคัญไว้เป็นอย่างมากภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไปแล้วจะต้องมีการสำรวจ เพื่อเยี่ยวยาทั้งในส่วนภาคการเกษตร บ้านเรือนประชาชน และในด้านอื่นๆอย่างรวดเร็ว

สำหรับปัญหาการกักตุนสินค้าของประชาชนในขณะนี้ เชื่อว่าเกิดในบางจุดเท่านั้น แต่ทุกอย่างสามารถที่จะบริหารจัดการได้ เพราะภาคเอกชนยังให้ความร่วมมือกับภาครัฐเป็นอย่างดี ส่วนการลงพื้นที่ของตนเองนั้น จะต้องมีการคำนึงถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เป็นหลักก่อนด้วย