"บิ๊กโจ๊ก" ระดมกำลังตำรวจ ช่วยเหลือ-ฟื้นฟูผู้ประสบภัย "ป่าบึก" จ.นครศรีฯ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.เจษฎา ใยสุ่น ผบก.ตม.6 พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รองผกก. สายตรวจ ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ใน 4 อำเภอ ประกอบไปด้วย อำเภอปากพนัง อำเภอเมือง อำเภอแหลมตะลุมพุก และอำเภอสิชล เพื่อนำถุงยังชีพมามอบให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์พายุโซนร้อน”ปาบึก”

โดยจุดแรกพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และคณะเดินทางไปยังโรงเรียนบ้านบางหลวง หมู่ที่ 4 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อแจกสิ่งของช่วยเหลือ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 500 ชุด จากนั้น เดินทางไปยัง โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช แจกสิ่งของช่วยเหลือ ประชาชนที่ได้รับ ความเดือดร้อน จำนวน 500 ชุด

จากนั้นได้ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจทำความสะอาดเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ โดยรอบวัดเสาธงทอง ต.ปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนที่จะเดินทางไปยัง สภ.ปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เพิ่อแจกสิ่งของช่วยเหลือ ข้าราชการตำรวจที่ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 200 ชุดพร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่

ก่อนจะไปยังชุมชนสารีบุตร ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช แจกสิ่งของช่วยเหลือ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 100 ครัวเรือน และร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาใน เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช รวมทั้งแจกถุงยังชีพให้กับแรงงานต่างด้าวที่ได้รับผลกระทบกว่า 70 ครัวเรือน

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้ได้บูรณาการกำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกว่า 200 นาย ผนึกกำลังกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติอย่างเร่งด่วน และการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟู โดยลงพื้นที่ 4 จุดสำคัญ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบไปด้วย อำเภอปากพนัง อำเภอเมือง อำเภอแหลมตะลุมพุก และอำเภอสิชล โดยการนำถุงยังชีพกว่า 1500 ชุด มามอบให้ นอกจากนี้ได้มอบถุงยังชีพให้กับครอบครัวข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบกว่า 200 หลังคาเรือนแล้ว ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้มอบถุงยังชีพให้กับแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยโดยถูกกฎหมายในพื้นที่ อ. สิชล จำนวนกว่า 70 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อทำกิจกรรมจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ โดยการทำความสะอาดวัดเสาธงทอง ต.ปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับคืนสู่สภาพโดยปกติให้เร็วที่สุด

อย่างไรก็ตามขอส่งกำลังใจและแสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราจะอยู่เคียงข้างประชาชน จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังจะร่วมฝ่าวิกฤตร่วมกัน ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งดำเนินการในการช่วยเหลือต่อไป ผบช.สตม. กล่าว

นอกจากนี้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอัชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี หรือ ศปอส. เฝ้าระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจจะฉวยโอกาสในการหาผลประโยชน์ด้วยการใช้เทคโนโลยีและสื่อโซเชียลมีเดียเปิดรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้เพื่อหลอกลวงเงินจากประชาชน หากพบว่ามีการกระทำในลักษณะดังกล่าว ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดทันที