หลายจังหวัดทั่วไทย สั่งระงับสิ่งที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง เช่น การผลิตแปรรูปไม้ยางพาราในภาคใต้,งดการเผาไม้ต่างๆ แต่ จ.กำแพงเพชร ชาวบ้านเดือดร้อนหลายครัวเรือน เนื่องจากเจ้าของไร่อ้อย เผาอ้อยแบบไม่สนใจใคร
เป็นภาพบรรยากาศบริเวณ บนถนนสายกำแพงเพชร - พิจิตร อำเภอเมืองกำแพงเพชร โดยรถที่สัญจรไปมาต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากกลุ่มควันจากการเผาใบอ้อยในไร่แห่งหนึ่ง กระจายทั่วบริเวณเป็นวงกว้าง ซึ่งทางจังหวัดได้รณรงค์ห้ามเผา และรณรงค์ในการฉีดพ่นน้ำเพื่อกำจัดฝุ่นละออง แต่ไร่อ้อยแห่งนี้ไม่ได้ทำตามแต่อย่างใด สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน หมู่ที่ 6 ตำบลเทพนคร จ.กำแพงเพชร ที่ได้รับผลกระทบ ต้องสวมหน้ากากอนามัย สวมแว่นตา ป้องกันควันเข้าสู่ร่างกาย
หนึ่งในชาวบ้าน เล่าว่า ตัวเองเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว และยังต้องมานั่งดมกลิ่นควันอีก รู้สึกแย่ ทั้งแสบตา แสบจมูก โดยกลิ่นควันจากการเผาใบอ้อยอันตรายมาก วอนเจ้าของไร่ หยุดเผา และขอให้หน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ
ด้าน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มีหนังสือถึงนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอ ขอความร่วมมือประชาชน ห้ามเผาตอซังข้าว และอ้อย ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2561-2562 โดยมีข้อห้ามอยู่ 4 ข้อ ได้แก่
1.ห้ามเผาเด็ดขาดในพื้นที่เกษตรกรรม
2.ห้ามเผาเด็ดขาดในพื้นที่ริมทางหลวง และริมทางหลวงท้องถิ่น
3.หากพบเห็นไฟไหม้ป่า ไฟไหม้ในที่โล่งพื้นที่ต่างๆ ขอให้ช่วยกันดับไฟ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้แจ้งหน่วยงาน
4.ผู้ใดฝ่าฝืนจุดไฟเผาป่าหรือเผาในที่โล่งพื้นที่ต่างๆ อาจมีความผิดตามกฎหมาย
ขณะที่ จ.ยะลา มีชาวบ้านไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองยะลา ถึงกรณีผู้อยู่อาศัยใกล้กับ โรงงานแปรรูปไม้ยางพาราแห่งหนึ่ง ใน ต.บุดี อ.เมืองยะลา ได้รับผลกระทบจากการผลิต มีฝุ่นละออง ควัน และกลิ่นเหม็น จากโรงงานเป็นเวลากว่า 1 ปี หลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าว พบใช้ขี้เลื้อย เป็นเชื้อเพลิง ในการเผาอบไม้ยาง ทำให้ฝุ่นละอองจากปล่องไฟ ล่องลอยในอากาศไปตกยังบ้านของชาวบ้าน เบื้องต้นมีหนังสือแจ้งเตือนให้แก้ไข ภายใน 15 วัน หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายทันที ขณะที่ทางโรงงานก็รับปากว่าจะยุติการใช้ขี้เลื่อยเด็ดขาดต่อจากนี้