svasdssvasds

"นารีขี่ม้าขาว" คำทำนายที่เลื่องลือ

"นารีขี่ม้าขาว" คำทำนายที่เลื่องลือ

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

"นารีขี่ม้าขาว" คำทำนายที่เลื่องลือ

วันที่ 8 ก.พ. ภายหลังความเคลื่อนไหวทางการเมืองปรากฎชัดเจนแล้วว่า พรรคไทยรักษาชาติเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์เป็นผู้ถูกเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วนั้น โลกออนไลน์กลับมีความเคลื่อนไหวไปในหลายทิศทาง โดยเฉพาะคำค้น #ทรงพระสเลนเดอร์ และนอกจากนั้นยังมีการค้นหาคำทำนายประเทศไทยเพิ่มเติมอีกด้วย โดยมีการพุ่งประเด็นไปที่เรื่องนารีขี่ม้าขาว ซึ่งเคยปรากฎเป็นคำทำนายก่อนหน้านี้มาแล้ว ช้อป Pomelo แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นออนไลน์ fast fashion ที่กำลังมาแรง

ทีมข่าวสปริงนิวส์ ตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำทำนายดังกล่าว โดยเฉพาะ ประโยคที่กล่าวถึง นารีขี่ม้าขาว พบว่ามีการอ้างถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำโดยนำชื่อหลวงพ่อไปประกอบคำทำนายบางช่วงบางตอนที่ให้ไว้ว่า

 

จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว

ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง

ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง

สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ

 

 

ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม

หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้

จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป

เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา

 

 

คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น

แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา

ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา

ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ

ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

 

 

แต่จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าในอดีตที่ผ่านมาเคยมีการทักท้วงเรื่องคำทำนายดังกล่าวที่ถูกตีพิมพ์ในหน้าหนังสือพิมพ์ จากศิษยานุศิษย์ ทีมงานเว็บวัดท่าซุง(วัดจันทาราม) โดยยืนยันว่า “บทกลอน” ดังกล่าว หลวงพ่อไม่เคยพูดไม่เคยกล่าวไว้ที่ไหนเลย ส่วนข้อความที่กล่าวไว้จริงๆ ในการบรรยายเรื่อง"อนาคตประเทศชาติ" ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั้น ได้โพสต์อยู่ในเว็บวัดท่าซุง เมื่อวันที่ 21/7/08 at 17:44 ตามที่อยู่นี้ http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=680  ซึ่งจะเห็นว่าไม่มีบทกลอนดังกล่าวอยู่ในเนื้อหาเลย

 

"นารีขี่ม้าขาว" คำทำนายที่เลื่องลือ

สำหรับประวัติหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำนั้น เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐ เดิมชื่อสังเวียน เป็นบุตรคนที่ ๓ ของนายควง นางสมบุญ สังข์สุวรรณ เกิดที่ตำบลสาลี อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี มีพี่น้อง ๕ คน เมื่ออายุ ๖ ขวบ เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาล วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนจบชั้นประถมปีที่ ๔ เมื่ออายุ ๑๕ ปี เข้ามาอยู่กับท่านยายที่บ้านหน้าวัดเรไร อำเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรี ในสมัยนั้น และได้ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ อายุ ๑๙ ปี เข้าเป็นเภสัชกรทหารเรือ สังกัดกรมการแพทย์ทหารเรือ พออายุครบบวช

อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ วัดบางนมโค โดยมีพระครูรัตนาภิรมย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิหารกิจจานุการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เล็ก เกสโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อายุ ๒๑ ปี สอบได้นักธรรมตรี อายุ ๒๒ ปี สอบได้นักธรรมโท อายุ ๒๓ ปี สอบได้ นักธรรมเอก

ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๘๐-๒๔๘๑ ได้ศึกษาพระกรรมฐาน จากครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิเช่นหลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค, หลวงพ่อจง พุทธสโร วัดหน้าต่างนอก, พระอาจารย์เล็ก เกสโร วัดบางนมโค, พระครูรัตนาภิรมย์ วัดบ้านแพน, พระครูอุดมสมาจารย์ วัดน้ำเต้า, หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ, หลวงพ่อเนียม วัดน้อย, หลวงพ่อโหน่ง วัดอัมพวัน (วัดคลองมะดัน) และหลวงพ่อเรื่อง วัดใหม่พิณสุวรรณ

"นารีขี่ม้าขาว" คำทำนายที่เลื่องลือ

พ.ศ. ๒๔๘๑ เข้ามาจำพรรษาที่วัดช่างเหล็ก อำเภอตลิ่งชัน ธนบุรี เพื่อเรียนบาลี ต่อมา สอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค ได้ย้ายมาอยู่ที่วัดอนงคาราม หลังจากนั้นได้เป็นรองเจ้าคณะ ๔ วัดประยูรวงศาวาส เป็นเจ้าอาวาสวัดบางนมโค และย้ายไปอยู่อีกหลายวัด

พ.ศ. ๒๕๑๑ จึงมาอยู่วัดท่าซุง บูรณะซ่อมสร้างและขยายวัดท่าซุง จากเดิมมีพื้นที่ ๖ ไร่เศษ จนกระทั่งเป็นวัดที่มีบริเวณพื้นที่ประมาณ ๒๘๙ ไร่

พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระสุธรรมยานเถร”

พ.ศ. ๒๕๓๒ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ “พระราชพรหมยาน ไพศาลภาวนานุสิฐ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”

มรณภาพ

ตุลาคม ๒๕๓๕ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)ได้ อาพาธด้วยโรคปอดบวมอย่างแรง และติดเชื้อในกระแสโลหิต เข้ารักษาที่โรงพยาบาลศิริราช และมรณภาพที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันศุกร์ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๓๕ เวลา ๑๖.๑๐ น.

ขอบคุณข้อมูล,ภาพ : วัดท่าซุง http://www.watthasung.com/

related