เเพร่วิกฤต! ค่าฝุ่นสูงสุด มองแทบไม่เห็น
สถานการณ์ฝุ่นละอองในภาคเหนือ หลายพืื้นที่ยังมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของประชาชน โดยมีสาเหตุมาจากการเผาเพื่อเตรียมการเกษตร เเละไฟป่าที่เกิดขึ้นหลายจุด
บรรยากาศที่จังหวัดแพร่พบว่า มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ลอยอยู่ในอากาศและเกินมาตรฐานมาหลายวัน โดยจากการตรวจวัดคุณภาพของเครื่องตรวจวัดที่ตำบลนาจักร อำเภอเมือง ปรากฎว่า ปริมาณ PM 2.5 วัดได้ที่ 123 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วน ค่าpm 10 อยู่ที่ 151 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่า AQI อยู่ที่ 233 เกรณ์สีคุณภาพมีผลกระทบ
ขณะที่ชาวบ้านบ้านสวนเขื่อน ม. 1 ต.สวนเขื่อน อ.เมือง ที่กำลังเดินออกกำลังกายบนท้องถนน เล่าว่า วันนี้อากาศแย่มากกว่าทุกวันมองแทบไม่เห็นทาง และยังรู้สึกเจ็บคอแสบจมูกมาก ซึ่งปกติจะเดินภายในหมู่บ้าน แต่มาคราวนี้เดินไม่ไหวเนื่องจากมีการเผาป่ากันจนหมอกควันเยอะ จึงตัดสินใจเดินตามถนนสายนอกแต่ก็แย่ไม่ต่างกัน
ขณะที่สภาพท้องฟ้าเหนือเมืองเชียงใหม่วันนี้ ก็ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นควัน โดยวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศตำบลสุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ อยู่ที่ 77 ไมโครกรัม ต่อ ลูกบาศก์เมตร ส่วนที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ศูนย์ราชการจังหวัด วัดได้ 54 ไมโครกรัม ต่อ ลูกบาศก์เมตร ขยับเป็นจากสีเหลืองเป็น “สีส้ม” เกินค่ามาตรฐาน
ขณะที่เวปไซต์รายงานคุณภาพอากาศ aqicn.org รายงานตัวเลขที่สูงกว่าถึงสองเท่า โดยรายงานตัวเลขที่ศูนย์ราชการจังหวัด ในเวลา 11.00 น. ได้ที่ 152 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ ส่วนที่บริเวณโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัดได้ 159 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นายระพีศักดิ์ มาลัยรุ่งสกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 เชียงใหม่ กล่าว ว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ จ. เชียงใหม่ นั้นเกิดมาการเผาในพื้นที่ และกระแสลมที่พัดพาเอาฝุ่นควันจากพื้นที่อื่นเข้าสู่ตัวเมือง ประชาชนควรติดตามรายงานจากกรมควบคุมมลพิษอย่างใกล้ชิดเพื่อเฝ้าระวังดูแลสุขภาพ
ส่วนที่สถานีตรวจวัดอากาศ สำนักงานเทศบาลเมืองน่าน จ. น่าน วัดค่าฝุ่นละออง ขนาดเล็ก ไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) อยู่ที่ 63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่เกณฑ์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ซึ่งมีสาเหตุมาจากชาวบ้านลักลอบจุดไฟหาของป่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และเกิดไฟป่าในหลายพื้นที่ โดยล่าสุดเกิดไฟป่าในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาตินันทบุรี ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำยาว - น้ำสวด บ้านสบขุ่น ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ลุกไหม้เสียหายกว่า 20 ไร่ และที่ป่าสงวนแห่งชาติ ห้วยทรายแดง ดอยจำห้าง ต.สถาน อำเภอนาน้อย ไฟป่าลุกไหม้เสียหายไปกว่า 12 ไร่
ด้านสำนักจัดการคุณภาพอากาศ ได้แจ้งเตือนประชาชน โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่โล่ง หากออกจากบ้านควรสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูก
