ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 1 มิถุนายน 2562 ร.ต.อ.เอกชัย อักษร รอง สว.สอบสวน สภ.ห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าไปทำการทุบทำลายเบ้าเก็บศพ ที่อยู่ข้างเมรุเผาศพในวัดส่งเสริมธรรม ที่สุสานป่าช้ามูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานี บ้านปากดง หมู่1 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบ พร้อมตำรวจชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นเบ้าปูนสำหรับเก็บศพชั่วคราว รูปทรงกลมยาวประมาณ 2 เมตร ซึ่งเป็นที่เก็บศพของ ด.ช.น้องเก้า อายุ 6 ปี 9 เดือน ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ โดยมี น.ส.อุไรรัตน์ สุวรรณหงส์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่10 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ยายของเด็กชายที่เสียชีวิต พาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจจุดที่บริเวณฝาเบ้าที่โดนทุบ ซึ่งได้มีการซ่อมแซมฉาบปูนใหม่ปิดเอาไว้เรียบร้อย แต่ทาง น.ส.อุไรรัตน์ฯ ได้ถ่ายรูปที่เกิดเหตุเก็บไว้ ตอนสภาพที่ฝาเบ้าโดนทุบ และพบว่ากะโหลกศีรษะศพของหลานชาย โดนเจาะลักษณะเป็นวงกลมขนาดเท่าเหรียญสิบบาท เพื่อเอาแผ่นหน้าผาก หรือปั่นเหน่งไป
น.ส.อุไรรัตน์ สุวรรณหงส์ ให้การว่า ทางเจ้าอาวาสวัดส่งเสริมธรรม บอกชาวบ้านให้มาบอกตนว่า เบ้าเก็บศพของหลานชายแตก ตอนแรกตนคิดว่ากิ่งไม้อาจหักตกลงมาใส่ จนทำให้เบ้าเก็บศพหลานชายแตก เพราะช่วงนี้ฝนตกมีลมแรง วันนี้ตนพร้อมญาติพี่น้องจำนวน 8 คน จึงพากันมาที่วัด เตรียมจะช่วยกันซ่อมแซมเบ้าเก็บศพหลานชาย เมื่อมาถึงก็ดูศพหลาน พบว่าที่หน้าผากของกะโหลกศีรษะศพของหลานชาย โดนคนร้ายเจาะเป็นรู ทีแรกคนร้ายเอาผ้าห่มมาปิดบังกะโหลกศีรษะเอาไว้ จากนั้นจึงได้ปรึกษาญาติ แล้วทำการซ่อมแซมปิดฝาเบ้าเก็บศพหลานเอาไว้ เพราะกลัวว่าฝนตกลงมาแล้วน้ำฝนจะไหลเข้าไปในเบ้า หลังจาดนั้นจึงพากันมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มาทำการตรวจสอบ
คนร้ายที่ทำแบบนี้กับศพหลานชายของตน ต้องเป็นพวกแก๊งจอมขมังเวทย์ หรือ พวกกลุ่มเล่นไสยศาสตร์ ที่ต้องการนำไปทำเครื่องรางของขลัง หรือเอาไปทำหวยก็ได้ ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่าพวกที่มาทำนั้น จะต้องทำการสะกดวิญญาณก่อนลงมือเจาะกรโหลกหน้าผาก หรือที่เรียกว่าปั่นเหน่งไป โดยศพที่ถูกกระทำจะทำให้ไม่ได้ไปผุดไปเกิด อยากให้ตำรวจจับแก๊งหรือกลุ่มคนพวกนี้ให้ได้ เพื่อจะได้นำกะโหลกหน้าผากของหลานชายกลับคืนมา เพื่อทำการถอนอาถรรพ์ไสยเวทมนต์ดำจากศพหลาน แล้วจะได้นำไปประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ส่งดวงวิญญาณของหลานชายไปสู่ภพภูมิที่ดี หรือจะได้ไปผุดไปเกิด
น.ส.อุไรรัตน์ฯ ให้การต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้เจ้าอาวาสที่วัดฝันว่า มีเด็กชายหรือดวงวิญญาณของหลานชายตน มาบอกว่าหนาว มาขออาศัยอยู่ด้วย ทำให้เจ้าอาวาทได้ไปดูเบ้าเก็บศพของหลานชาย จึงทำให้รู้ว่าเบ้าเก็บศพหลานชายตนแตก จึงฝากบอกชาวบ้านให้มาบอกตนซ่อมแซมเบ้าเก็บศพของหลาน ซึ่งหลานชายตนเสียชีวิตจากการจมน้ำ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2562 หลังจากนั้นตนจึงได้ศพมาใส่ในเบ้าเก็บศพชั่วคราว เมื่อวันที่ 27 มกราคม เนื่องจากหลานชายตายโหง และฐานะทางบ้านก็ยากจนด้วย ตั้งใจว่าจะเก็บศพหลานชายไว้ 1 ปี จึงจะนำศพของหลานชายมาเผาทำพิธีตามศาสนา ล่าสุดเพิ่งจะทำบุญครบ 100 วัน ให้กับหลานชายเมื่อวันที่ 5พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ด้าน ร.ต.อ.เอกชัย อักษร รอง สว.สอบสวน สภ.ห้วยหลวง เปิดเผยว่า ได้ทำการสอบปากคำยายของเด็กชายที่เสียชีวิต ที่ถูกคนร้ายมาทุบทำลายเบ้าเก็บศพ แล้วเจาะเอากพโหลกหน้าผากไป โดยจะต้องทำการสอบปากคำ ญาติที่ไปช่วยกัน ซ่อมแซมเบ้าเก็บศพ และท่านเจ้าอาวาสวัดที่พบก่อนเป็นคนแรก เพื่อหาหลักฐานให้ทราบแน่ชัดว่า คนร้ายเข้ามาก่อเหตุวันไหนและช่วงเวลาใด โดยคาดว่าคนร้ายต้องมีมากกว่า 1 คน ซึ่งจะให้ทางตำรวจชุดสืบสวนหาเบาแสเบื้องต้นของคนร้าย พร้อมกับได้รายงานไปให้ผู้บังคับบัญชารับทราบแล้ว