สลด​ใจ!​ ทช.​ เร่งชันสูตรหาสาเหตุ "วาฬบรูด้า" ตาย 2 ตัว​ ทะเลอ่าวไทย​

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ได้รับการรายงานว่าวาฬบรูด้าตาย 2 ตัว ซึ่งเกิดขึ้นภายในวันเดียวกันเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยตัวแรกเป็นวาฬบรูด้าเพศผู้ อายุ 4-5 ปี ลอยเกยตื้นติดชายฝั่ง บริเวณป่าโกงกาง ห่างจากวัดขุนสมุทรจีนไปทางทิศตะวันออกประมาณ 4 กิโลเมตร จากการสำรวจบริเวณปากอ่าวไทยใกล้ จ.สมุทรปราการ และพื้นที่ติดต่อมีวาฬบรูด้าจำนวน 50 ตัว คาดว่าตัวที่เกยตื้นนั้นน่าจะเป็นตัวที่กำลังเป็นวัยเจริญพันธุ์ และเป็นตัวที่ 3 ในรอบ 12 ปีที่เกยตื้นตาย ซึ่งจากการผ่าพิสูจน์ไม่พบสิ่งแปลกปลอมในกระเพาะอาหาร จึงต้องรอผลตรวจเนื้อเยื่ออีกครั้ง

ส่วนวาฬบรูด้าตัวที่ 2 พบเกยตื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้มอบหมายให้ นายวิชัย สมรูป ผอ.สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ลงพื้นที่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลากซากวาฬบรูด้าขึ้นฝั่ง บริเวณสวนสาธารณะ บ้านท่ากระจาย ม.1 ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฏร์ธานี เพื่อให้ทีมสัตว์แพทย์ จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (จ.ชุมพร) ผ่าชันสูตร

จากการตรวจสอบ พบเป็นวาฬบรูด้าตัวผู้เช่นเดียวกัน อยู่ในช่วงวัยรุ่น ขนาดความยาว 10.8 เมตร หนัก 10 ตัน คาดว่าน่าจะตายมาแล้ว 2-3 วัน สภาพซากมีความสมบูรณ์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ บริเวณหัว และหางพบรอยช้ำ ซึ่งเป็นไปได้หลายสาเหตุอาจจะถูกอวนเรือประมง หรือถูกกระแทกกับเครื่องมือประมง หรือของแข็ง แต่ยังไม่สามารถระบุการตายได้ นอกจากนี้ยังต้องทางเก็บชิ้นส่วนไปตรวจดีเอ็นเอ เก็บตับไปตรวจหาสารพิษ พร้อมหาสาเหตุการตาย ส่วนกระดูกจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ศึกษาเรียนที่บริเวณหาดสำเร็จ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี

สำหรับวาฬบรูด้าได้รับการบรรจุเป็นสัตว์สงวนของไทยลำดับที่ 16 ในช่วง 1 เดือนนี้มีวาฬบรูด้าตายแล้ว 3 ตัว คือวันที่ 29 พ.ค.ชื่อเจ้าปิ่น ตายจากการติดอวนรัด ที่ทะเลบ้านแหลม จ.เพชรบุรี วันที่ 20 มิ.ย.เจอซากตัวที่ 2 สภาพค่อนเน่าที่ป่าโกงกาง อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และซากตัวที่ 3 ที่ทะเลรอยต่อเขต จ.ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ส่วนปี 2560 มี 2 ตัวที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์