5 เขื่อนใหญ่ 23 เขื่อนขนาดกลางโคราช เหลือน้ำใช้เฉลี่ย 25% ส่วนประปาภูมิภาค 4 สาขา ดูแล 5 อำเภอ วิกฤติหนัก เหลือน้ำดิบผลิตประปาได้ไม่เกิน 20 วัน
วันนี้ (4สิงหาคม 2562) นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำในห้วงที่ผ่านมา พบว่า อ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่มีน้ำใช้การได้ไม่ถึง 25% ซึ่งสถานการณ์ภัยแล้งปัจจุบันของจังหวัดนครราชสีมา พบว่า มี 15 อำเภอ 29 ตำบล 51 หมู่บ้าน ที่เป็นหมู่บ้านเป้าหมายต้องแจกจ่ายน้ำช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่น อำเภอเมืองนครราชสีมา ,โนนสูง,ปักธงชัย,จักราช ,ห้วยแถลง,สูงเนิน, สีคิ้ว ,พิมาย และประทาย เป็นต้น
ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาค 3 แห่ง คาดว่าจะประสบปัญหาขาดน้ำดิบผลิตประปา คือ สาขาพิมาย รับผิดชอบ อำเภอห้วยแถลง และอำเภอคง โดยปริมาณน้ำในลำน้ำมูลลดระดับลง จึงคาดการณ์ว่า จะสูบได้อีกประมาณ 35 วันเท่านั้น ส่วนลำน้ำเค็ม ก็มีระดับต่ำกว่าบ่อชักน้ำดิบ จึงคาดการณ์สูบได้ประมาณ 20 วัน
ด้านศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต นครราชสีมา ได้จัดสรรงบประมาณมาเป่าล้างบบ่อบาดาลให้ 11 อำเภอ 22 ตำบล 79 หมู่บ้าน รวม 130 บ่อ ซึ่งเมื่อเป่าล้างเสร็จได้เชื่อมต่อเข้ากับระบบประปาหมู่บ้าน-ถังน้ำกลางและบาดาลหัวโยก ทำให้ประชาชน 8,973 ได้รับประโยชน์
ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย สถานการณ์ฝนแล้ง รวม 6 อำเภอ 28 ตำบล 1 เทศบาลตำบล และ 243 หมู่บ้าน ส่วนการประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน “ฝนแล้ง” ได้รับรายงานพืชผลเกษตรเสียหายโดยสิ้นเชิง 2 อำเภอ คือ อำเภอครบุรี และอำเภอพะทองคำ โดยได้สั่งการให้ทุกอำเภอและสำนักงานเกษตรอำเภอ สำรวจความเสียหานตามหลักเกณฑ์จากสถานการณ์ภาวะฝนแล้ง กรณีนาข้าวแห้งตายหรือพืชผลเกษตรเสียหายโดยสิ้นเชิง และให้รายงานเหตุด่วนเพื่อประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินกรณีฝนแล้งตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ เพื่อดำเนินการชดเชยให้กับเกษตรกรตามมาตรการต่างๆ โดยเร็ว