ชาวปากบัง นครพนม ระทมต้นข้าวเน่าตายเกือบ 2 พันไร่

วันนี้ (17 ก.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำโขงในพื้นที่จ.นครพนม ยังคงลดลงอย่างรวดเร็ว เฉลี่ยวันละเกือบ 1 เมตร ล่าสุด อยู่ที่ประมาณ 5.50 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติ 6.50 เมตร (จุดวิกฤต13เมตร) ส่งผลให้ลำน้ำสาขาสายหลัก เช่น ลำน้ำก่ำ และลำน้ำบัง ที่เคยได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก จนน้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร เขต อ.วังยางและอ.นาแก  ลดลงวันละประมาณ 20-30 เซนติเมตร คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในไม่ช้า

นายคำพอง พ่ออามาตย์ ผู้ใหญ่บ้านปากบัง ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม เปิดเผย หลังน้ำลดมีการสำรวจพื้นที่การเกษตรทำนาปีประมาณ 3,500 ไร่ ของชาวบ้านปากบัง ต.พิมาน อ.นาแก พบว่ามีพื้นที่นาข้าวเกือบ 2,000ไร่ ถูกน้ำท่วมขังมานานเกือบเดือน ต้นข้าวที่เพิ่งปักดำเน่าตายได้รับความเสียหาย อยู่ระหว่างการสำรวจให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีก ความเสียหายของนาข้าวจะน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา เช่น ปี 2560 มีพื้นที่นาข้าวเสียหาย 3,000ไร่ ส่วนแนวทางการแก้ไข คงเป็นเรื่องยากเพราะใช้งบประมาณจำนวนมาก ในการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำบังทะลักเข้าหมู่บ้าน ส่วนแนวทางที่ 2 คือการสร้างระบบชลประทานให้ชาวบ้านทำนาในฤดูแล้งชดเชย ซึ่งยังเป็นความหวังของชาวบ้าน ต้องการให้รัฐบาลมาดูแลแก้ไข เพราะเป็นพื้นที่ท่วมซ้ำซากมานานกว่า 30 ปี

สำหรับพื้นที่บ้านปากบัง ต.พิมาน อ.นาแก ได้รับผลกระทบจากน้ำหนักสุดเป็นประจำทุกปี เพราะเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำทั้ง 2 สาย คือ ลำน้ำก่ำและลำน้ำบัง ซึ่งรับมวลน้ำจากทะเลสาบหนองหาร จ.สกลนคร ก่อนไหลระบายลงแม่น้ำโขงที่ อ.ธาตุพนม