เชียงใหม่ - ฝนถล่มหนักเชียงใหม่ ทำเจดีย์วัดล่ามช้างแตกร้าว ด้านกรมศิลปากรเข้าสำรวจแล้ว พร้อมวางแนวทางบูรณะร่วมกับชาวบ้าน
จากกรณีที่ฝนตกหนักและมีลมพายุในเขต จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้เจดีย์อายุ 700 กว่าปี ในวัดล่ามช้าง ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เกิดรอยแตกร้าว โดยพระครูปลัดอานนท์ วิสุทโท เจ้าอาวาสวัดล่ามช้าง จึงประสานไปที่สำนักงานศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ให้เข้ามาตรวจสอบความเสียหายเกิดขึ้น
ล่าสุดวันนี้ ( 6 ต.ค.) นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เข้ามาสำรวจความเสียหาย พร้อมกับเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากร โดยนายเทอดศักดิ์ ได้ปีนขึ้นบันใดเพื่อไปสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น พบว่าตัวปูนซึ่งก่อสร้างครอบตัวองค์เจดีย์เดิม เมื่อปี 2503 เกิดการแตกร้าวและมีบางส่วนแตกร่วงลงมาจากองค์เจดีย์
นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่องค์เจดีย์วัดล่ามช้างพังเสียหายนั้นรมว.วัฒนธรรม และอธิบดีกรมศิลปากร มีความเป็นห่วงอย่างมาก และได้กำชับให้สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เร่งเข้ามาตรวจสอบโดยเร็วที่สุด ซึ่งจากการตรวจสอบในวันนี้ พบว่าองค์เจดีย์ถูกสร้างขึ้นสมัยพญามังราย มีอายุราวๆ 700 กว่าปี จากเดิมเป็นเพียงองค์พระธาตุที่มีสภาพเหลือแต่อิฐเก่าที่เป็นรูปร่างองค์เจดีย์ ต่อมาในปี 2503 ทางอดีตเจ้าอาวาส ได้ทำการบูรณะด้วยการทำเจดีย์ใหม่ครอบเจดีย์เดิม
จากนั้นในปี 2542 ทางวัดได้ทำเพิ่มเติมบริเวณทรงระฆังคว่ำขององค์เจดีย์และติดกระจกเพิ่ม กระทั่งในปี 2557 ทางสำนักงานศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ได้เข้ามาบูรณะองค์เจดีย์บริเวณตั้งแต่ด้านล่างทรงระฆังคว่ำจนถึงฐานร่าง ซึ่งก็มีการยึดและคอบฐานล่างไว้แล้ว
ส่วนสาเหตุของการพังทลายครั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าตัวปูนซีเมนต์ที่ถูกสร้างครอบในปี 2503 ไม่เชื่อมติดกับองค์เจดีย์เดิม ประกอบกับอายุขององค์เจดีย์ที่ผ่านมานานหลายสิบปี และมีรากต้นโพธิ์ด้านใน เมื่อรากดังกล่าวโตมากขึ้น สร้างรอยแยกให้กับปูนจากเดิมที่ไม่ติดกันอยู่แล้ว ก็ขยายตัวมากขึ้น กระทั่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้น้ำฝนที่ตกลงมาซึมเข้าไปในรอยแยก เมื่อปูนที่กร่อนแล้วไม่ติดกันแต่เดิมอยู่แล้ว ก็เกิดการแตกและหลุดออกมา ซึ่งขนาดปูนเมื่อหยิบมาตรวจสอบดู พบว่ามีน้ำหนักมาก
[video width="960" height="540" mp4="https://spcdn.springnews.co.th/wp-content/uploads/2019/10/87.mp4"][/video]
ดังนั้นการใช้ปูนซีเมนต์มาครอบองค์เจดีย์ ก็เหมือนเป็นฉนวนกันความชื้นที่ไม่ให้ระเหยออกมาด้านนอกด้วย และการเอียงขององค์เจดีย์ มีการเอียงแต่เดิมอยู่แล้ว กระทั่งมาสร้างเจดีย์ครอบใหม่ ก็สร้างตามการเอียงขององค์เจดีย์เดิม หากมองทางด้านทิศใต้ขององค์เจดีย์ จะเห็นว่าเจดีย์เอียงไปทางทิศตะวันออก
นายเทอดศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากการตรวจสอบแล้ว ทางสำนักงานศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เตรียมที่จะบูรณะด้วยการซ่อมแซมตัวองค์เจดีย์ให้กลับคืนมา แต่จะบูรณะในส่วนที่เสียหายก่อน สำหรับการบูรณะระยะยาวก็ต้องรองบประมาณครั้งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งแผนการบูรณะซ่อมแซมส่วนที่แตกร้าวครั้ง เมื่อมีการนำรากต้นโพธิ์ออกแล้ว จะดูว่าจุดไหนมีรอยร้าวเพิ่ม จะนำออกและบูรณะใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน งบประมาณรวม 3 แสนบาท