ตำรวจกองปราบปราม รวบอดีตทหาร หลอกฝากญาติเข้ารับราชการหลายหน่วยงาน หลังรู้ตัวเหยื่อติดต่อสอบถามขอเงินคืน แต่ถูกบ่ายเบี่ยงผัดผ่อน สุดท้ายถูกจับขณะแวะทำธุระร้านกาแฟหน้ากองปราบปราม สารภาพทำหลายครั้ง
วันที่ 19 ตุลาคม พล.ต.ต. จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน กองกำกับการ2 กองบังคับการปราบปราม และสถานีตำรวจภูธรกมลาไสย จับกุมนายเด่นชัย ภูหงส์ทอง อายุ 50 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดร้อยเอ็ด ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านกาแฟคอบสตอร์รี่คาเฟ่ หน้า บก.ป. แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2559 นายเด่นชัยได้ติดต่อกับผู้เสียหาย อ้างว่าตนเองมีโควต้า สามารถฝากคนเข้าทำงานในเป็นเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานประจำปี 2559 ตำแหน่งนักทัณฑวิทยา สังกัดกรมราชทัณฑ์ได้ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ ให้บุตรชายไปสมัครสอบตามคำแนะนำ โดยนายเด่นชัยขอเงินเป็นค่าอำนวยความสะดวกช่วยลูกชายของผู้เสียหาย จำนวน 50,000 บาท ผู้เสียหายจึงโอนเข้าบัญชีนายเด่นชัยไป
จากนั้น ในเดือน มิ.ย.59 นายเด่นชัย ได้ขอให้โอนเงินค่าอำนวยความสะดวกอีก ผู้เสียหายจึงโอนเงินให้ 30,000 บาท ต่อมานายเด่นชัยนี้ได้นัดให้ผู้เสียหายนำเงินมามอบอีก 50,000 บาท โดยผู้ต้องหารายนี้เดินทางมารับเงินสดด้วยตัวเองที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์
ต่อมา มีการประกาศรายชื่อผู้ที่สอบผ่าน ปรากฏว่าไม่มีชื่อลูกชายของผู้เสียหาย ทางผู้เสียหายจึงสอบถามนายเด่นชัย แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง อ้างว่าลูกชายของผู้เสียหายอยู่ในกลุ่มโควต้าพิเศษและสุดท้ายไม่ได้บรรจุ จากนั้น นายเด่นชัยได้เสนอว่า ต้องการเป็นทหารที่กองทัพบกหรือไม่ เนื่องจากตัวเองเป็นทหารทำงานอยู่ในกองทัพบก และทราบมาว่าจะมีการบรรจุบุคคลภายนอกในตำแหน่งพลขับหรือธุรการ ซึ่งตนเองได้โควต้ามา จึงติดต่อกับผู้เสียหายและอ้างว่าจะช่วยให้ได้บรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งดังกล่าวโดยไม่ต้องมีการสอบบรรจุ โดยจะช่วยให้ได้บรรจุเข้าแทนพนักงานคนเก่าที่เกษียณอายุไป และจะได้บรรจุช่วงเดือน พ.ย.59 ผู้เสียหายหลงเชื่อ
จากนั้น นายเด่นชัยได้บอกว่าจะต้องใช้เงินในการดำเนินการและค่าเสียเวลาเป็นเงิน 60,000 บาท ผู้เสียหายจึงโอนเงินให้ รวมเงินที่ได้มอบกับผู้ต้องหาไปกว่า 190,000 บาท ต่อมา เมื่อถึงเดือน พ.ย.59 ตามที่ตกลงไว้ ลูกชายของผู้เสียหายก็ไม่ได้บรรจุตามคำกล่าวอ้าง ผู้เสียหายจึงติดต่อนายเด่นชัย แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงให้รอ อ้างกำลังประสานงานอยู่หากได้ผลประการใดจะติดต่อกลับ จนเวลาผ่านไปหลายเดือนก็ไม่ติดต่อกลับ
กระทั่ง เดือน พ.ค.60 นายเด่นชัยติดต่อมาหาผู้เสียหาย ให้ไปพบที่ค่ายอดิศร จ.สระบุรี ภายในวันที่ 18 พ.ค.60 เพื่อไปเลือกตำแหน่ง ผู้เสียหายจึงให้ภรรยาและลูกชาย เดินทางไปพบนายเด่นชัย เมื่อไปพบตามที่นัดหมาย นายเด่นชัยบอกว่าจะได้บรรจุตำแหน่งในตำแหน่งพลขับที่ค่ายทหาร จ.ปราจีนบุรี โดยจะติดต่อประสานงานที่ค่ายดังกล่าวให้ เมื่อได้ผลประการใดจะติดต่อกลับให้เตรียมตัวรอรับตำแหน่งได้ แต่ก็ไม่ได้ติดต่อและหายเงียบไป
ทางผู้เสียหายจึงพยายามติดต่อนายเด่นชัยหลายครั้ง จนเมื่อ มิ.ย.60 ผู้เสียหายและภรรยา เดินทางไปยังบ้านพักของนายเด่นชัย เลขที่ 10 หมู่ 4 ต.หนองตาไก้ อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด เมื่อไปถึงพบภรรยาของนายเด่นชัย บอกว่านายเด่นชัย ลาออกจากราชการทหารแล้วและไม่ทราบไปอยู่ที่ใด จึงไม่มีทีท่าว่าลูกชายผู้เสียหายจะได้บรรจุตำแหน่งแต่อย่างใด จากนั้น ผู้เสียหายพยายามติดต่อผู้ต้องหาเพื่อขอเงินคืน แต่ผู้ต้องหาไม่ได้คืนเงินและบ่ายเบี่ยงผัดผ่อนเรื่อยมา ผู้เสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์กับสภ.กมลาไสย ไว้
จนกระทั่งตำรวจกองปราบปรามสืบสวนจนทราบว่านายเด่นชัย จะเดินทางมาทำธุระที่ร้านกาแฟคอบสตอร์รี่ ด้านหน้า บก.ป. เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกต จนพบรถจักรยานยนต์มีชายลักษณะตรงกับนายเด่นชัย เข้ามาจอดที่บริเวณหน้าร้านดังกล่าว ชุดสืบสวนจึงแสดงตัวและจับกุมตัว จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และยอมรับว่าก่อเหตุมาหลายครั้ง เบื้องต้น ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กมลาไสย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป