โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย "ในหลวง" ทรงห่วงใยประชาชน พระราชทานพระราโชบาย ไม่ให้ปิดการจราจร ให้จัดช่องทางเสด็จ สตช. รับกำหนดแนวทาง 10 ข้อ
วันนี้ (12 ม.ค. 63) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวิดีโอแนวทางการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรโดยไม่ให้ปิดการจราจร ผ่านเฟซบุ๊ก ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โดยข้อความระบุว่า
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบดีถึงปัญหาการจราจรและทรงห่วงใยประชาชน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้กำหนดแนวทางอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยไม่ให้ปิดการจราจร ให้จัดช่องทางเสด็จและช่องทางประชาชนโดยใช้อุปกรณ์เพื่อความสะดวก กรณีที่มีเกาะกลางถนนเส้นทางฝั่งตรงข้ามสามารถใช้ได้ตามปกติ กรณีไม่มีเกาะกลางถนนให้ใช้กรวยยางวาง กรณีทางร่วมทางแยกใช้วิธีการควบคุมรถ สำหรับสะพานกลับรถหรือสะพานข้ามใช้ได้ตามปกติ ทางพิเศษที่มีด่านให้วางแนวกรวยยางตามความเหมาะสม เน้นย้ำในการวางอุปกรณ์ให้พิจารณาตามความเหมาะสม และใช้มาตรการประชาสัมพันธ์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกับทั้งประชาชนและผู้ปฏิบัติหน้าที่
การดำเนินการปรับรูปแบบการถวายการอารักขาระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หลัก เพื่อถวายความปลอดภัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงในระดับสูงสุด เพื่อให้สมกับพระเกียรติ และเป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระเจริญ
#โฆษกบอกต่อ #อาจารย์แหม่ม
สำหรับเนื้อหาในคลิปวีดีโอ มีใจความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยประชาชน เกรงว่าการเสด็จพระราชดำเนินของพระองค์และพรบรมวงศานุวงจะกระทบกับการเดินทางของประชาชน จึงมีพระราโชบายมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดแนวทางอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยไม่ให้ปิดการจราจร ให้จัดช่องทางเสด็จและช่องทางประชาชนโดยใช้อุปกรณ์เพื่อความสะดวก จึงได้มีพระราโชบายมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดแนวทางอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางได้ โดยเกิดผลกระทบน้อยที่สุด จากพระราโชบายดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงกำหนดแนวทางดังต่อไปนี้
1.ไม่ให้ทำการปิดการจราจร เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้ตามปกติ
2.ในเส้นทางเสด็จ ให้จัดช่องทางเสด็จและช่องทางประชาชนโดยใช้อุปกรณ์เช่นกรวยยาง ป้ายไฟ เพื่อความสะดวก
3. เส้นทางฝั่งตรงข้ามเส้นทางเสด็จ กรณีที่มีเกาะกลางถนน เส้นทางฝั่งตรงข้ามสามารถใช้ได้ตามปกติทุกเส้นทาง กรณีไม่มีเกาะกลางถนนให้ใช้อุปกรณ์ เช่น กรวยยางวาง โดยประชาชนสามารถวิ่งตามเส้นทางที่จัดไว้ได้ตามปกติ
4.กรณีทางร่วมทางแยกให้ประชาชนใช้เส้นทางได้ตามปกติ ใช้วิธีการควบคุมรถ เช่นใช้กรวยยางวางควบคุมกระแสรถ
5. สำหรับสะพานกลับรถหรือสะพานข้ามผ่านเส้นทางเสด็จ ให้ประชาชนใช้ได้ตามปกติ
6.กรณีทางพิเศษที่มีด่านเก็บเงินให้วางแนวกรวยยางด้านซ้ายให้ประชาชนเดินรถได้ โดยให้เหลือช่องทางสำหรับขบวนเสด็จอย่างน้อย 2 ช่องทาง
7.กรณีเส้นทางร่วมทางแยก ไม่ให้บังคับให้ประชานเปลี่ยนเส้นทาง ให้คำนึงความตั้งใจของประชาชนเป็นหลัก
8. เน้นย้ำในการวางอุปกรณ์ให้พิจารณาตามความเหมาะสม ให้คำนึงเวลา กระทบประชาชนน้อยที่สุด
9. ใช้มาตรการประชาสัมพันธ์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกับทั้งประชาชนและผู้ปฏิบัติหน้าที่
10.ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ต้องลงไปกำกับดูแลด้วยตนเอง สำหรับผู้ปฎิบัติให้ใช้วาจา กิริยาท่าทางด้วยความสุภาพ ไม่ให้ประชาชนรู้สึกว่าถูกบังคับ