สธ. ยืนยันผู้ป่วยรายที่ 2 ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย พบผู้รายที่ 2 ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 รักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร ขณะที่ผู้ป่วยรายแรกมีอาการดีขึ้นตามลำดับ ช่วงเทศกาลตรุษจีนจะเพิ่มมาตรการป้องกันเป็นระดับ 3
วันที่ 17 ม.ค. 2563 นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อปอดอักเสบ จากเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน ว่ากระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้ทำการตรวจคัดกรองผู้เดินทางที่สนามบิน เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยยืนยันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2019 เพิ่ม 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน อายุ 74 ปี
ขณะนี้เข้ารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร อยู่ในการดูแลของแพทย์ อาการทางคลินิกดีขึ้น ซึ่งหากผลตรวจจากห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อไวรัส แพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ นับเป็นรายที่สองของประเทศไทย ซึ่งทั้งสองรายไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข บอกอีกว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการเฝ้าระวังและควบคุมโรค ตามระบบมาตรฐานที่ใช้สำหรับโรคติดต่ออุบัติใหม่ โดยได้คัดกรองผู้โดยสารที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ณ ท่าอากาศยาน 4 แห่ง ได้แก่สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่และภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 3 - 16 มกราคม 2563 รวมจำนวน 86 เที่ยวบิน
ผู้โดยสารและลูกเรือได้รับ การตรวจคัดกรอง ทั้งสิ้น 13,624 ราย พบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าเกณฑ์การสอบสวน จำนวน 21 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ได้รับการรักษาหายดีและกลับบ้านแล้ว จำนวน 12 ราย มีที่เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2 ราย ยังรักษาอยู่ในห้องแยกโรคสถาบันบำราศนราดูร
ส่วนผู้ป่วยรายแรก อาการดีขึ้นมากแล้วไม่มีไข้ รอการตรวจยืนยันซ้ำว่า ไม่พบเชื้อไวรัสที่สามารถแพร่ติดต่อ แพทย์จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ เช่นเดียวกับผู้ป่วยรายที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาและติดตามอาการจนกว่าจะหายดี และตรวจซ้ำว่าไม่พบเชื้อไวรัสแล้วจึงจะให้กลับบ้านได้
จากการติดตามตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิด ผู้ป่วยรายแรก จำนวน 16 คน และผู้สัมผัสใกล้ชิดรายที่ 2 จำนวน 20 คน ไม่พบผู้สัมผัสใกล้ชิดที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกในประเทศไทยยังไม่มีการระบาดแต่อย่างใด
กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันในความพร้อมด้านสาธารณสุข ทั้งมาตรการเฝ้าระวังและแนวทางป้องกันการแพร่ระบาด ทั้ง 4 ด้าน คือ ความสามารถในการเฝ้าระวังโรค คัดกรองและคัดแยกผู้ป่วย โดยมีการคัดกรองผู้โดยสารเครื่องบินในเส้นทางที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน การวินิจฉัย การดูแลรักษา ผู้ป่วยที่อยู่ในเกณฑ์การสอบสวน ส่งต่อผู้ป่วยที่เข้าข่าย เข้ารับการสังเกตอาการในห้องแยกความดันลบ (Negative Pressure Room) ทั้งโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน และ การเฝ้าระวังในชุมชนแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ
ส่วนเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงจะมีนักเที่ยวจากจีนเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ทำให้ทางกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มมาตรการป้องกันในระดับ 3 คือ เพิ่มจากมาตรการคัดกรองสนามบินกระบี่เพิ่ม พร้อมประสานสถานพยาบาลและเฝ้าระวังชุมชนแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ รวมถึงผู้ปฎิบัติหน้าที่ต้องมีความรู้ ความเข้าใจสำหรับการปฎิบัติงาน ในการดูแลรักษาคนไข้
