รฟท.แจง รถไฟประสานงากัน ส่งผลให้ประชาชนเจ็บ 40 ราย พร้อมเยียวยาทุกคน ส่วนอุบัติเหตุ เกิดในเส้นทางเป็นทางเดี่ยว อยู่ระหว่างการก่อสร้างทางคู่ เป็นเหตุให้ประแจสับหลีกขัดข้อง พร้อมสั่งการให้ใช้ความระมัดระวังมากกว่านี้
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงถึงความคืบหน้าเหตุขบวนรถสินค้าคอนเทนเนอร์ ที่ 722 ชนกับขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 37 กรุงเทพ – สุไหงโก-ลก ที่จอดอยู่ในทางหลีกที่ สถานีปากท่อ จังหวัดราชบุรี เมื่อเวลา 18.40 น. ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำการยกขบวนรถที่ตกรางได้แล้ว และสามารถเปิดทางเดินรถระหว่างสถานีปากท่อ-บ่อตะคร้อ และปากท่อ-บางเค็ม ได้เมื่อเวลา 01.45 น. ของช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
เบื้องต้น การรถไฟฯ จะรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยออกหนังสือรับรองให้กับโรงพยาบาลเพื่อเรียกเก็บเงินกับการรถไฟฯ หรือ รฟท. กรณีผู้บาดเจ็บต้องไปรับการรักษาพยาบาลต่อเนื่องในพื้นที่ต่างๆ ส่วนผู้บาดเจ็บต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา สามารถเลือกเดินทางโดยรถไฟ หรือพาหนะอื่น รฟท.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง สำหรับผู้โดยสารกรณีทรัพย์สินเสียหายจะมีคณะกรรมการพิจารณาเยียวยาค่าเสียหายตามสมควรต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากอุบัติเหตุดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นผู้โดยสาร 40 คน และเป็นพนักงานการรถไฟบาดเจ็บ 4 คน ซึ่งขณะนี้มีผู้รับบาดเจ็บมีเพียง 1 ราย ที่ยังคงรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนบุคคลที่เหลือได้รักษาจนอาการดีขึ้นและส่งกลับบ้านแล้ว
ทั้งนี้ยืนยันว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นระบบทางเดี่ยว ซึ่งขบวนรถไฟไม่สามารถหลีกทางกันบริเวณกลางทางได้ ต้องให้รถคันหนึ่งจอดรอเพื่อเข้าทางหลีก โดยตามปกติระบบประแจจะเป็นระบบไฟฟ้า แต่ขณะนี้เป็นช่วงระหว่างก่อสร้างรถไฟทางคู่ ทำให้ประแจไฟฟ้างดใช้ชั่วคราว พร้อมยอมรับว่า ช่วงนี้ที่ยังมีการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ก็มีโอกาสเกิดเหตุซ้ำ จึงสั่งการให้ใช้ความระมัดระวัง
ส่วนกรณีจะเป็นความผิดของพนักงาน หรือเกิดจากระบบทางเทคนิค ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากต้องรอคณะกรรมการเหตุอันตรายสรุปอีกครั้ง ส่วนในเรื่องของการประเมินความเสียหายก็ยังไม่สามารถประเมินได้เช่นกัน