อุทาหรณ์ 2 ครอบครัว ในจ.สระแก้ว ซื้อไข่แมงดาทะเล แกะเปิบ 2-3 คำ สุดท้ายมีอาการลิ้นชา ปากชา ต้องนำส่งโรงพยาบาล เสียชีวิต 1 คน ส่วนอีกคนอาการโคม่า ผู้เชี่ยวชาญเตือนระวัง แมงดาถ้วยหรือเหรา พิษร้ายแรง อาจเสียชีวิตภายใน 6-24 ชม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์สลดพบผู้เสียชีวิตจากพิษแมงดาทะเล เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ผู้เสียชีวิตคือ นางกัญญาภรณ์ รอดภัย อายุ 52 ปี โดยญาติตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองคลอง ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว
ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายประจวบ ธรรม อายุ 51 ปี สามีผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนกับภรรยาและเพื่อนบ้านรวม 2 ครอบครัว จำนวน 4 คน คือ นางศรีจันทร์ สร้อยแมน อายุ 52 ปี พร้อมด้วย นายพิษ บุญศรี อายุ 52 ปี ไปซื้อไข่แมงดาทะเลที่ตลาดสดเทศบาลตำบลวัฒนานคร เพื่อนำมาปรุงเป็นอาหาร โดยมีชาวจังหวัดระยองเป็นผู้นำมาขาย คาดว่าเป็นแมงดาชนิดที่มีพิษ ซึ่งหลังซื้อมานำแมงดาทะเลมาเปิดออก แล้วก็พากันกินเล่นคนละ 2-3 คำ เท่านั้น
สักพักตนและเพื่อนบ้านมีอาการลิ้นชา มือชา ส่วนผู้หญิงจะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ชาย ตนจึงได้พา นางกัญญาภรณ์ ภรรยา และนางศรีจันทร์ สร้อยแมน ส่งโรงพยาบาลวัฒนานคร แต่อาการทั้ง 2 คน ไม่ดีขึ้น แพทย์ผู้รักษาโรงพยาบาลวัฒนานคร ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ซึ่ง น.พ.พสุ จันทร์เพ็ญ แพทย์เวรรับไว้รักษาในห้อง ICU แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตของภรรยาไว้ได้ ส่วนนางศรีจันทร์ สร้อยแมน อาการยังโคม่าอยู่ในห้อง ICU
น.พ.พสุ จันทร์เพ็ญ แพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ระบุความเห็นในเอกสารการเสียชีวิต ของนางกัญญาภรณ์ รอดภัย ว่าสาเหตุเกิดจากได้รับสารพิษจากไข่แมงดาทะเล ซึ่งแมงดามีพิษอยู่ที่ทางเดินอาหารและไข่ และไม่สามารถกำจัดพิษออกได้โดยง่าย ขอแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแมงดาทะเล แต่หากต้องการรับประทาน ขอให้เลือกแมงดาจานหรือแมงดาทะเลหางเหลี่ยม ซึ่งไม่มีพิษ สามารถรับประทานได้ สังเกตจากลำตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าแมงดาถ้วย
ด้าน น.ส.ณัฐพร รอดภัย อายุ 25 ปี ลูกสาวของนางกัญญาภรณ์ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า อยากฝากเรื่องของแม่ไว้เป็นอุทาหรณ์กับผู้ขายอาหารทะเลไว้ให้ดูดีๆ ในการขายไข่ของแมงดา พิษในไข่แมงดาอาจมีพิษ ขอให้แม่ของตนเป็นรายสุดท้าย ขออย่าให้เกิดกับคนอื่นอีกเลย คนขายต้องรอบคอบด้วย ไม่ใช้เอาไข่แมงดาพิษมาขายให้คนอื่นกิน แล้วมีอาการเหมือนแม่ของตน ซึ่งมีอาการมึนงง รู้สึกชาบริเวณลิ้น ปาก ปลายมือ ปลายเท้าและกล้ามเนื้ออ่อนแรง เริ่มจาก มือ แขน ขา ตามลำดับดังกล่าว จนกระทั่งไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้มีข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าในประเทศไทย มีแมงดาทะเลอยู่ 2 ชนิด โดยมากอาศัยอยู่ตามพื้นทะเล วางไข่ตามริมชายฝั่งที่เป็นดินทราย ชนิดแรกคือ แมงดาถ้วยหรือแมงดาทะเลหางกลม มีอีกชื่อหนึ่งคือ เหรา หรือแมงดาไฟ แมงดาทะเลชนิดนี้มีพิษ ไม่สามารถรับประทานได้ ลักษณะที่สังเกตได้คือ ลำตัวโค้งกลม หางกลม ผิวด้านบนมีขนสั้น สีน้ำตาลอมแดง ต่อจากส่วนท้องมีหางค่อนข้างกลม ไม่มีสันและไม่มีหนาม พบอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลนและตามคลองในป่าชายเลน
ส่วนแมงดาอีกชนิดคือ แมงดาจาน แม้จะมีรูปร่างคล้ายกัน แต่มีวิธีสังเกตง่ายคือ แมงดาจานจะมีหางเป็นเหลี่ยม แมงดาทะเลชนิดนี้ไม่มีพิษ สามารถรับประทานได้
ฝั่งอ่าวไทยจะพบแมงดาทั้ง 2 ชนิดนี้มากที่สุด ตามพื้นที่แนวชายฝั่งของทะเลตั้งแต่ จังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ตลอดไปจนถึงชุมพรและฝั่งทะเลอันดามัน ตั้งแต่สตูลไปจนถึงระนอง
สำหรับอาการหลังรับประทานไข่แมงดาพิษ จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย บางราย อาจมีน้ำลายฟูมปาก เหงื่อออกมาก พูดลำบาก ตามองเห็นภาพไม่ชัด ในรายที่มีอาการรุนแรงมาก จะมีผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หายใจลำบาก เนื่องจากกล้ามเนื้อกระบังลมไม่ทำงาน ระบบหายใจล้มเหลว หมดสติ และสมองขาดออกซิเจน หากช่วยไม่ทันอาจเสียชีวิตได้ภายใน 6-24 ชั่วโมง
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากได้รับพิษ จะต้องให้ผู้ปฐมพยาบาลทำให้ผู้ป่วยหายใจคล่องที่สุด และรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด หากผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทำการผายปอดจนกว่าจะถึงโรงพยาบาล ห้ามให้ผู้ป่วยรับประทานอาหาร น้ำหรือยา เนื่องจากผู้ป่วยอาจเกิดอาการสำลักได้ ซึ่งจากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากการรับประทานไข่แมงดาทะเล ระหว่างปี 2556-2561 จำนวน 33 ราย เสียชีวิต 3 ราย โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากประชาชนผู้บริโภคขาดความรู้เรื่องพิษของแมงดาทะเล