“สรยุทธ สุทัศนะจินดา” หวนคืนจอ ราชทัณฑ์ หนุน จัดรายการเรื่องเล่าชาวเรือนจำ

วันนี้ (5 เม.ย.63)  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ในอดีตปัญหาที่ยาวนานคือเรามีผู้ต้องขังมากถึง 80,000 คน แต่เรือนจำทั่วประเทศรองรับผู้ต้องขังได้เพียง 220,000 คน มีปริมาณที่เกินถึง 160,000 คน การเป็นอยู่ในเรือนจำนั้นจึงแออัด กระทรวงยุติธรรมหาแนวทางแก้ไขมาตลอด ต้องขอบคุณทีมงานกระทรวงยุติธรรม

โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงฯ ที่ต้องบูรณาการใช้เงิน เกลี่ยงบประมาณ ทำเตียง 2 ชั้น สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ เรื่อง กำไลอีเอ็ม อีกทั้งพัฒนากฏหมายต่างๆ เพื่อควบคุมดูแลผู้ต้องขัง รวมถึง พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้นำงบประมาณ 193 ล้านบาท มาทำห้องกักโรค รวมถึง เตียงนอน 2 ชั้น ทั้ง 2 เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหางานที่กระทรวงยุติธรรมรับผิดชอบ

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือ โควิด 19 ว่า ส่วนงานในอนาคต เวลานี้ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะพัฒนาแล็บของสำนักงาน ให้เป็นแล็บที่ 29 ของประเทศไทยที่สามารถตรวจเชื้อ โควิด-19 ได้ สามารถตรวจผู้ต้องสงสัย

หรือในกลุ่มเสี่ยงได้ง่าย โดยเพราะผู้ต้องขัง ที่มีจำนวนมาก หากพบสามารถส่งตรวจ รู้ผลใน 24 ชั่วโมง เพราะเวลานี้เรือนจำยังมีความแออัด งบประมาณในเรื่องของน้ำยา และอุปกรณ์ต่างๆ จะอยู่ที่ 2,200 บาทต่อเคส ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 13 เม.ย.นี้.

ส่วนในเรื่องการให้ความรู้ต่อผู้ต้องขังก็สำคัญเช่นกัน ยิ่งในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด 19 ในขณะนี้ นายสมศักดิ์ เล่าว่า

"จากที่ตนให้นโยบายในการทำงานเรื่องของการสร้างภูมิคุ้มกันในเรือนจำ ลดความเครียด ให้ความรู้ผู้ต้องขังในเรื่องของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ตั้งศูนย์ขึ้นมา

โดยให้นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ผู้ต้องราชทัณฑ์ มาเป็นพิธีกรจัดรายการ “เรื่องเล่าชาวเรือนจำ”

ให้ความรู้ผู้ต้องขัง 143 แห่งทั่วประเทศ เผยแพร่ให้ญาติพี่น้องของผู้ต้องขัง รวมถึงสังคมสบายใจ ทุกเทปที่ทำ

ในเวลานี้เป็นการให้ความรู้ที่เป็นข้อเท็จจริงในเรื่องโควิด-19 ในเรือนจำ รวมถึงบอกเล่าในมาตรการต่างๆ ที่กรมราชทัณฑ์ทำให้ผู้ต้องขังทั่วประเทศ จะได้ไม่เข้าใจผิด จนเกิดการปลุกปั่นจนเผาเรือนจำแบบจังหวัดบุรีรัมย์ นักโทษ คดีร้ายแรง มักมีความคิดแหกคุก พยายามปลุกปั่น หากเรารับมือได้ การปลุกปั่นจะไม่สามารถหลอกผู้อื่น

ตนว่าอาจจะหยุดการปลุกปั่นทั้งหมดไม่ได้ เราเพียงทำให้ดีขึ้น แต่การมีศูนย์นี้จึงถือเป็นหนึ่งในการดูแลความมั่นคงในเรือนจำ

ที่เราต้องป้องกันไม่ให้เกิดจราจลที่ผ่านมา" นายสมศักดิ์ กล่าว