svasdssvasds

หลอกรัฐ ได้เงิน 5,000 บาท ผิดอาญา เจอ 2 ข้อหาหนัก แห่ยกเลิกกว่า 3.3 แสนราย!!!

หลอกรัฐ ได้เงิน 5,000 บาท ผิดอาญา เจอ 2 ข้อหาหนัก แห่ยกเลิกกว่า 3.3 แสนราย!!!

เกิดดราม่าในโลกโซเชียลแบบรายวัน ภายหลังจากกระทรวงการคลังเริ่มทยอยจ่ายเงินให้กับผู้ได้สิทธิ์รับเงินเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน สำหรับผู้ได้รับสิทธิ์

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวเตือน ผู้ที่จะโพสข้อความใดๆ ลงในโซเชียล ทั้งเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ เกี่ยวกับการได้มาของเงินเยียวยา 5,000 บาทว่า ขอให้คิดให้หนักก่อนโพส เพราะเมื่อโพสลงไปแล้วจะกลายเป็นหลักฐานสำคัญในการเอาผิดทางกฎหมาย หากข้อความดังกล่าวเป็นเท็จและได้เงินเยียวยามาจากการให้ข้อมูลเท็จ หรือแม้แต่การดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยคำหยาบคายต่างๆ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 3 ข้อหาหนัก ดังนั้นอย่าเสี่ยงเพราะได้ไม่คุ้มเสีย การมีชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติอาชญากรมีผลต่อการสมัครงาน ใครรู้ตัวทำผิดสามารถใช้บริการปุ่มยกเลิกการลงทะเบียนในเว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ได้ เพราะขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนยกเลิกแล้วกว่า 3.3 แสนราย

หลอกรัฐ ได้เงิน 5,000 บาท ผิดอาญา เจอ 2 ข้อหาหนัก แห่ยกเลิกกว่า 3.3 แสนราย!!!

โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) ได้อ้างอิงข้อมูลทางกฎหมายจากเพจ ทนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ระบุ การตั้งใจกรอกข้อมูลหลอกลวงรัฐเพื่อหวังลงทะเบียนรับเงิน 5,000 บาทจากรัฐบาล เข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานฉ้อโกง มาตรา 341 มีโทษขั้นสูงจำคุก 3 ปี หรือปรับ 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีความผิดฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา 137 มีโทษขั้นสูงจำคุก 6 เดือน หรือปรับ10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ที่โพสหมิ่นรัฐบาล มีความผิดตาม มาตรา 136 มีโทษขั้นสูงจำคุก 1 ปี หรือปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และแม้ว่าผู้โพสจะลบข้อความไปแล้ว แต่ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมสามารถดึงข้อมูลที่ลบไปแล้วกลับมาได้

อย่างไรก็ตาม ดราม่าที่เกิดขึ้นทำให้กระแสวิพากวิจารณ์ในโลกโซเชียล เกิดความกังขากับระบบคัดกรองของกระทรวงการคลังเป็นอย่างมาก เพราะมีกลุ่มคนบางส่วนออกมาโพสในทำนองที่ว่าไม่เดือดร้อนแต่ได้เงินเยียวยาจำนวน 5,000 บาท โดยมีข้อความหลากหลาย บางรายติดแฮชแทค อาทิ ระบุว่าข้อมูลที่ลงทะเบียนเป็นข้อมูลเท็จแต่ได้เงินจริง "เศษเงินหลังตู้เย็น" “ลงไว้เล่นๆ ไม่เคยหวังจะได้” “ขอบคุณสำหรับค่าโบท้อค” “ยกเลิกแล้วแต่ได้เงิน” รวมถึง การโพสข้อความด่าทอรัฐบาล “เฮงซวย” ล่าสุดมีโพสอวดได้เงิน 2 ทาง ทั้งจากเงินเยียวยา 5,000 บาท และประกันสังคม

หลอกรัฐ ได้เงิน 5,000 บาท ผิดอาญา เจอ 2 ข้อหาหนัก แห่ยกเลิกกว่า 3.3 แสนราย!!!

ทั้งนี้ ทางกระทรวงการคลังแบ่งการตรวจสอบออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

1. กลุ่มที่ไม่ได้รับเงินแต่บอกว่าได้เงิน ถือว่าสร้างความสับสน จะมอบให้กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ไปช่วยตรวจสอบ เพราะถือเป็นข่าวปลอม (Fake News) มีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์หรือไม่ คาดว่าผลจะออกมาเร็วๆ นี้ และ

2. พวกที่ได้เงินจริง แต่ใส่ข้อมูลที่เป็นเท็จ กรณีนี้ ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงจะตรวจสอบย้อนกลับตามข้อมูลที่ลงทะเบียนและดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับในรายที่ได้เงินแล้ว ทางกระทรวงจะขอให้มีการคืนเงินภายใน 90 วัน พร้อมระงับเงินในเดือนต่อๆ ไป

ส่วนประเด็นที่ประชาชนเริ่มกังขาเรื่องระบบการคัดกรองผู้ได้รับสิทธิ์เยียวยาเงินชดเชย 5,000 บาทนั้น มีประสิทธิภาพหรือไม่ ขอย้ำว่าทางธนาคารกรุงไทยใช้ระบบที่ดีที่สุดในการคัดกรอง และด้วยจำนวนการลงทะเบียนในเว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่มีมากกว่า 25 ล้านคน ทีมงานต้องทำงานแข่งกับเวลาการปรับระบบให้สามารถคัดกรองข้อมูลโดยเร็ว อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดก็น้อมรับและจะนำไปแก้ไข เนื่องจากทางกระทรวงต้องการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ พร้อมจ่ายเงินเยียวยาให้ทันท่วงที

 

เรื่องน่ารู้จาก COVID-19

อ่านข่าวแนะนำ >>> วิธี กักกันตัวเอง ที่บ้าน ทำอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด

https://www.springnews.co.th/alive/lifestyle/630786

อ่านข่าวแนะนำ >>> Social Distancing ระยะห่างทางสังคม ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

https://www.springnews.co.th/alive/lifestyle/631471

อ่านข่าวแนะนำ >>> วิธีรับมือ ความวิตกกังวลจากการระบาดของไวรัสโควิด-19

https://www.springnews.co.th/alive/lifestyle/634538

อ่านข่าวแนะนำ >>> How To ดูแล สุขภาพจิต เด็กและเยาวชน ระหว่างโรคระบาด

https://www.springnews.co.th/alive/lifestyle/635009

อ่านข่าวแนะนำ >>> How to ทำงานจากบ้าน พร้อมเลี้ยงลูกไปด้วย แบบไม่เสียสติ

https://www.springnews.co.th/alive/edutainment-alive/636779

related