เปิดใจป้ากินยาเบื่อหนูหน้ากระทรวงการคลัง เผยตั้งใจจบชีวิตทวงสิทธิเงินเยียวยา

เงินเยียวยา จากเหตุการณ์ที่ นางสาวอัญกาญจน์ กินยาเบื่อหนู หน้ากระทรวงการคลัง เพื่อเรียกร้องเงินเยียวยา ได้เปิดใจวันเกิดเหตุตัดสินใจสละชีวิต เพื่อร้องทุกข์ เพราะอยากให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือประชาชนคนจนที่ได้รับความเดือดร้อน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณห้องเช่าแห่งหนึ่ง จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อมาพูดคุยกับนางสาวอัญกาญจน์ อายุ 59 ปี ที่เดินทางไปทวงสิทธิ์รับเงินเยียวยา 5,000 บาท และได้กินยาเบื่อหนู ที่หน้ากระทรวงการคลัง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา

โดยนางสาวอัญกาญจน์ ได้เปิดใจว่า ป้าไม่ได้ทำแบบนั้นเพื่อเรียกร้องให้ใครมาช่วยเหลือหรือเอาเงินบริจาค วันนั้นตั้งใจตายจริง ๆ อยากเป็นศพร้องทุกข์ เพราะอย่างน้อยที่สุดจะทำให้รัฐบาลหันมามองดูคนจนบ้างก็จะยอมสละชีวิต เพราะแก่และเหนื่อย เนื่องจากตกงานมานาน

ประกอบกับวันก่อนเกิดเหตุนั้นไม่ได้กินข้าวมา 2 วัน กินเพียงน้ำและรื้อหาอะไรที่พอจะประทังได้ในตู้เย็นแม้จะเสียแล้ว ก็ต้องกินเพราะความหิว โดยก่อนหน้าที่จะอดนั้นมีมาม่าเพียงหนึ่งห่อต้องแบ่งกิน 3 มื้อ

นางสาวอัญกาญจน์ เล่าต่อว่า ตั้งแต่ปลายปี 61 ตนเริ่มมีอาการเซ จึงไม่สามารถทำงานหนักได้ ทำได้เพียงงานรับจ้างทำความสะอาดตามบ้านระยะเวลาสั้น และงานลูกจ้างรายวัน หางานอย่างอื่นให้พอประทังชีวิตไปได้ แต่ช่วงวิกฤตินี้ ไม่มีงานจึงทำให้ขาดรายได้ และติดเงินค่าเช่าบ้านรวมแล้วประมาณ 10,000 บาท

นางสาวอัญกาญจน์ บอกว่า ลุงเจ้าของห้องเช่าเป็นคนดีมาก ถ้าป้าอยู่ที่อื่นคงโดนไล่ไปแล้ว วันสุดท้ายที่ลุงมาทวงถาม ป้าเครียดมาก เพราะป้าก็อยากใช้หนี้ลุงให้ครบ

วันนั้นที่ไปก็คิดว่าไหนๆ ก็ไม่มีเงินใช้ลุงแล้ว ก็ไปตายที่นั้นเลย ที่ไปครั้งแรกเพราะอยากจะไปถามว่าการเยียวยาเงินล่าช้าให้กับประชาชน แล้วประชาชนที่เดือดร้อนจะเป็นอย่างไร บางคนเขาไม่ได้ประมาท เขาก็เตรียมว่าจะต้องทำอาชีพอะไรสำรอง ซึ่งป้าก็คิดว่าจะทำอาหารขาย หลังจากนี้ไม่คิดฆ่าตัวตายแล้ว เพราะมีกำลังใจจากหลายๆ คนที่เข้ามาช่วย หลายๆ ฝ่าย ป้าไม่ได้คิดทวงเงิน 5,000 บาท เขานะ ป้าคิดเพียงว่า

“ป้าไปเรียกร้องความเป็นธรรมขอเรียกร้องจริงๆ คุณให้เงินคนช้า จะรู้ไหมว่าได้ฆ่าคนทั้งเป็น ไหนๆ ก็จะตายแล้วก็ขอเป็นศพร้องเรียนก็แล้วกัน ถ้าป้าตายคิดว่ารัฐบาลจะหันมาดูบ้าง ว่าช้าเกินไปไหมที่จะช่วยชีวิตคน การช่วยชีวิตคนต้องไม่ช้า โดนเฉพาะคนจนด้วยแล้วต้องยิ่งรีบช่วยเหลือ และอยากจะถามใครก็ตามที่จะขึ้นมาเป็นรัฐบาลว่าจะจัดจำแนกคนจนคนรวยด้วยวิธีไหน และทำอย่างไร ควรคัดสรรขึ้นมา คนจนที่สุดควรรีบช่วยก่อน” นางสาวอัญกาญจน์ กล่าวทั้งน้ำตา

นางสาวอัญกาญจน์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลต้องคิดนิดนึงว่า ส่วนใหญ่คนที่เข้าอินเตอร์เน็ตได้คือคนรวยทั้งหมด คนจนเข้าไม่เป็นหรอก ยิ่งตาสีตาสา ไม่สามารถเข้าถึงได้ ออกกฎหมายมาให้คนไปแจ้งสถานะที่แท้จริง ต่อไปจะได้ไม่มีคนรวยมาแย่งเงินคนจน

นางสาวอัญกาญจน์ อีกด้วยว่า อดครั้งแรกก็ไม่รู้จะพูดกับใคร เนื่องจากเป็นคนพูดตรง ขวานผ่าซาก ก็เลยมีเพื่อนน้อย จึงพูดกับแมวชื่อ “สีทอง” ว่า จะมีกับข้าวกินไม่กี่วันแล้วนะ เพราะฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเลย ของกินอะไรที่เคยเก็บเอาไว้แล้วไม่ได้กินป้ารื้อเอาออกมากินทั้งที่ของบูด กินแล้วปวดท้องป้าก็กิน แม้ของจะเน่าเสีย คนที่ต้องตายทั้งเป็นสู้ไปตายเลยดีกว่า

นอกจากนี้นางสาวอัญกาญจน์ ได้เปิดเผยอาการของตัวเองหลังจากออกจากรพ.เมื่อวันที่ 30 เมษายนกลับมารักษาตัวที่ห้องเช่าว่า ขณะนี้ดีขึ้นแล้ว แต่หากเดินมากๆ ก็จะเหนื่อยและหัวใจกระตุก รวมถึงมีอาการเจ็บขา และมึนงง ซึ่งพรุ่งนี้ก็จะไปหาหมอตามนัดต่อไป ส่วนเงินค่าเช่าที่ยังค้างลุงได้มีคนใจดีช่วยเหลือแล้ว และป้าได้รีบนำเงินไปใช้ทั้งหมดแล้ว

CR : nationtv