svasdssvasds

ศาลยุติธรรมห่วงใยประชาชน ผุด 4 โครงการฝ่าภัยโควิด

ศาลยุติธรรมห่วงใยประชาชน ผุด 4 โครงการฝ่าภัยโควิด

ศาลยุติธรรมห่วงใยฝ่าภัยโควิด ผุด 4 โครงการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 มิ.ย.63 ที่ห้องประชุมใหญ่สำนักประธานศาลฎีกา นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา เปิดโครงการ "ศาลยุติธรรมห่วงใยฝ่าภัยโควิด" ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพไปยังศาลยุติธรรมทั่วประเทศ

ศาลยุติธรรมห่วงใยประชาชน ผุด 4 โครงการฝ่าภัยโควิด

โดยโครงการดังกล่าว ศาลยุติธรรมจัดขึ้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือและลดภาระของคู่ความและประชาชนผู้ใช้บริการศาลในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบหรือความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการขาดรายได้ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ อีกทั้ง เพื่อเป็นการช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ โครงการศาลยุติธรรมห่วงใยฯ ได้แบ่งการดำเนินงานออกเป็นโครงการย่อย 4 โครงการประกอบด้วย โครงการที่ 1 การงดหรือลดภาระค่าใช้จ่ายของคู่ความในการดำเนินคดี มุ่งเน้นการงดหรือลดภาระค่าใช้จ่ายบางประเภทของคู่ความในการดำเนินคดี ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของคู่ความในการดำเนินคดี และเพิ่มการให้บริการของศาลยุติธรรมตลอด จนนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของศาลเช่นลดค่าใช้จ่ายในการส่งคำคู่ความคดีบางประเภทคืนค่าขึ้นศาลเป็นกรณีพิเศษเมื่อพิพากษาตามยอมส่งสำเนาคำพิพากษาคดีฟรีถึงบ้านนัดเหลื่อมเวลาเพื่อลดการใช้เวลาในศาลบริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) และจุดรับบริการ Drive Thru รวมถึงส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีแทนการเดินทางมาศาล

โครงการที่ 2 การพัฒนาระบบการไกล่เกลี่ยออนไลน์ในศาลยุติธรรม มุ่งส่งเสริมให้คู่ความร่วมหาวิธีการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขที่ทุกฝ่ายยอมรับและสามารถปฏิบัติได้จริงในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสที่เกิดขึ้น โดยผสมผสานการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสื่อกลางในกระบวนการไกล่เกลี่ยที่จะทำให้คู่ความสามารถเข้าร่วมกระบวนการไกล่เกลี่ยได้โดยไม่เกิดภาระการเดินทางมาศาลในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสดังกล่าว แต่ยังสามารถคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในกระบวนการการระงับข้อพิพาททางเลือกผ่านการจัดโครงการ "ไกล่เกลี่ยจากบ้านหรือ Mediation from Home" ในศาลทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดทำเพจโครงการเพื่อเป็นสื่อกลางประสานความร่วมมือและความเข้าใจแก่คู่ความที่ประสงค์จะใช้บริการการไกล่เกลี่ยออนไลน์ด้วย

โครงการที่ 3 คุ้มครองสิทธิเสรีภาพและลดการคุมขังที่ไม่จำเป็น มุ่งให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาหรือจำเลย โดยคำนึงถึงเหยื่ออาชญากรรมและความสงบสุขของสังคม เน้นการฟื้นฟูหรือป้องกันมิให้ผู้กระทำความผิดกระทำหรือมีโอกาสกระทำความผิดขึ้นอีก เช่น การส่งเสริมให้ผู้พิพากษาใช้ดุลพินิจในการพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวให้เหมาะสมการใช้มาตรการรอการกำหนดโทษและมาตรการในการทำงานบริการสังคมแทนค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ทั้งนี้เพื่อลดการคุมขังที่ไม่จำเป็น รวมทั้งการใช้ดุลพินิจในการกำหนดเงื่อนไขในการเยียวยาผู้เสียหายตามที่เห็นสมควร

โครงการที่ 4 การพัฒนาระบบการให้ความช่วยเหลือและอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนด้านแรงงานมุ่งเน้นการให้ข้อมูลและให้บริการประชาชนในเชิงรุกเกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เช่น การจัดทำ "ศาลแรงงานเคลื่อนที่" เปิดศูนย์ให้คำปรึกษา "คลินิกศาลแรงงานร่วมใจวิถีใหม่-สู้ภัยโควิด" และบริการ"Labour Court: Online For You" ในศาลแรงงานทั่วประเทศมุ่งเน้นการให้บริการประชาชนเชิงรุกเพื่อลดการเดินทางของคู่ความ รวมทั้งการให้ข้อมูลประชาชนเพื่อให้เข้าใจสิทธิและสวัสดิการของตนตามที่กฎหมายแรงงานที่กำหนดไว้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและคู่ความที่ขาดรายได้หรือถูกเลิกจ้างจากสถานการณ์ในปัจจุบัน

โดยศาลยุติธรรมทั่วประเทศจะเริ่มดำเนินการตามโครงการ "ศาลยุติธรรมห่วงใยฝ่าภัยโควิด" ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 63

related