อีก 2 ปีถึงจะมีเลขหมายโทรศัพท์ฉุกเฉินเลขหมายเดียว

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและการโทรคมนาคม (กมธ.ICT) วุฒิสภาเปิดเผยว่า มีความคืบหน้าในเรื่องการจัดให้มีบริการเลขหมายโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติเลขหมายเดียว โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมาเปิดประกวดราคาทางอีเล็กทรอนิกส์จ้างจัดทำโครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ตั้งราคากลางอยู่ที่ 7,083,384,792 บาท บริษัทที่สนใจสามารถยื่นข้อเสนอและเสนอราคาภายในวันที่ 20 ส.ค. นี้

พลเอกอนันตพร กล่าวว่า กมธ.ICT วุฒิสภาให้ความสำคัญกับการติดตาม ตรวจสอบและเร่งรัดหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ สตช. ให้ดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็ว เพื่อจะได้มีหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินเลขหมายเดียวมาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจนถึงปัจจุบัน หน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานต่างมีหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของตัวเอง ก่อให้เกิดความสับสน ยากต่อการจดจำของประชาชน เช่น ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ของสตช. , ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน 1669 ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ 199 ของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมีอีกหลายหน่วยงานที่มีเลขหลายสายด่วนเฉพาะของหน่วยงานตัวเอง ทำให้เวลาเกิดเหตุเร่งด่วน เช่น เกิดภัยพิบัติ เกิดอันตรายต่อชีวิต ประชาชนไม่สามารถโทรแจ้งเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันเวลา หรือบางทีก็จำหมายเลขไม่ได้

ประธาน กมธ.ICT กล่าวต่อไปว่า ในประกาศของ สตช. เรื่องประกวดราคาหาบริษัทรับจ้างมาดำเนินการแบ่งเป็น 2 ระยะคือระยะที่ 1 ติดตั้งศูนย์ 11 แห่ง ระยะที่ 2 ติดตั้งศูนย์สำหรับจังหวัด 66 แห่ง กำหนดเวลาแล้วเสร็จภายใน 720 วัน หรือ 2 ปีถัดจากวันลงนามในสัญญาจ้าง หากเสร็จไม่ทันจะต้องเสียค่าปรับ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในประกาศจะระบุให้ผู้ยื่นข้อเสนอต้องจัดทำให้มีนโยบายและแนวทางป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ตนก็อดหวั่นใจไม่ได้ว่า เมื่อปฏิบัติจริง ปัญหาไม่โปร่งใสหรือไม่

เกรงว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ จึงควรต้องหาทางป้องกันมิให้เกิดการฉ้อฉลขึ้น เนื่องจากเงิน 7,000 ล้านบาทเป็นเงินก้อนโต อาจล่อใจให้เกิดการกระทำผิด ทำลายชื่อเสียงของ สตช. ให้ด่างพร้อยยิ่งขึ้นจากที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้

"มีทางใดบ้างที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเร่งรัดให้โครงการนี้เสร็จเร็วขึ้น ไม่ควรต้องรอนานถึง 2 ปี ในระหว่างนี้ชาวบ้านก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาความสับสนในการจดจำเลขหมายฉุกเฉินซึ่งมีอยู่หลายเลขหมายจากหลายหน่วยงาน บ้านเมืองอื่นเขาไปไกลแล้ว เช่น อเมริกาใช้เลขหมาย 911 สหภาพยุโรปใช้เลขหมาย 112 อังกฤษใช้เลขหมาย 999 รับแจ้งเหตุครั้งเดียวสามารถส่งต่อไปสู่ศูนย์บัญชาการเหตุฉุกเฉินได้ทันทีแต่ของเรายังไม่มี ทำให้ต้องอยู่ในความเสี่ยงอันตรายต่อชีวิต หากการแจ้งเหตุฉุกเฉินล่าช้าไม่ทันการณ์" พล.อ.อนันตพร กล่าว