"ออมเพื่อให้ตามรอยพ่อ" แลกรับกระปุกสัญลักษณ์ทรงงานในหลวง ร.9
ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
หลังจากที่ทางโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เริ่มเปิดรับเงินออมจากประชาชน ในโครงการ ออมเพื่อให้ตามรอยพ่อ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางไปเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก
วันที่ 5 ส.ค.60 บรรยากาศที่โรงพยาบาล ศิริราช ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคมเป็นต้นมา เต็มไปด้วยประชาชนที่นำเงินออมในกระปุกออมสิน เดินทางไปแลกรับกระปุกออมเงินรูปจำลอง อุปกรณ์ทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในโครงการออมเพื่อให้ตามรอยพ่อ เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา กันเป็นจำนวนมาก
โดยทางโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ได้จัดทำกระปุกออมเงิน รูปจำลองอุปกรณ์ทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ออกเป็น 3 แบบด้วยกัน อาทิ วิทยุสื่อสาร, กล้องถ่ายรูป และ รถจิ๊บที่ทรงใช้เป็นพระราชพาหนะ ในการเสด็จ พระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรของพระองค์ที่อยู่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร
เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับ ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ทรงงานหนักเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ที่ทรงให้ความสำคัญต่อการออม และการให้เพื่อส่วนรวมที่ทรงได้รับการหล่อหลอมและปลูกฝัง จากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มาแต่ครั้งทรงพระเยาว์ ซึ่งผู้ที่ได้รับกระปุกออมเงิน อุปกรณ์ทรงงาน ในโครงการออมเพื่อให้ตามรอยพ่อ ต่างรู้สึกประทับใจ ที่ได้รับกระปุกออมสินอุปกรณ์ทรงงาน เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจ ให้ตามรอยพระมหากษัตริย์นักออมเงิน
ทั้งนี้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการออมเพื่อให้ตามรอยพ่อ ได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม 2560 วีธีการคือนำกระปุกที่ออมเงินจนเต็ม ไม่จำกัดขนาด 1 กระปุก ต่อการแลกรับกระปุกออมเงินที่ระลึกสัญลักษณ์อุปกรณ์ทรงงาน 1 แบบ 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์ ได้ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์และกิจกรรมตามห้างสรรพสินค้า ตามช่วงเวลาที่กำหนด
แบบแรกคือ กระปุกวิทยุสื่อสาร สามารถรับแลกได้จนถึงวันที่ 20 สิงหาคม แบบที่ 2กล้องถ่ายรูป แลกรับได้ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.- 20 ก.ย.นี้ และแบบที่ 3 รถจิ๊บ รับได้ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.-20 ต.ค.2560
ส่วนผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมแลกกระปุกได้ด้วยตัวเอง สามารถลงทะเบียน พร้อมโอนเงินออมบริจาคเพื่อรับกระปุกสัญลักษณ์อุปกรณ์ทรงงานทั้ง 3 แบบได้ ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ทางเว็บไซต์ www.savingforgiving.com
[embed]https://youtu.be/5TI6yvnXHCg[/embed]
