svasdssvasds

บุกทำเนียบ! แสดงจุดยืน-เรียกร้อง คัดค้านการเพิ่มสลากฯ

บุกทำเนียบ! แสดงจุดยืน-เรียกร้อง คัดค้านการเพิ่มสลากฯ

ผลสำรวจของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ ม.จุฬาฯ ยังสะท้อนชัดเจนว่า ปัจจุบันมีคนไทยซื้อสลากกินแบ่งฯ 21ล้านคน ซึ่งเฉลี่ยแล้ว1คน จะซื้อสลากฯ 4.3 ใบ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเกินควร

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายราเมศร ศรีทับทิม ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก พร้อมด้วย นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้วผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน และนักเรียนนักศึกษา ชาวบ้าน กว่า30คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนการเพิ่มจำนวนสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถึง 9 0ล้านฉบับ จากเดิม 37 ล้านฉบับ เนื่องจากสำนักงานสลากฯมุ่งแต่จะหาเงินเข้ารัฐ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อปัญหาสังคม ทั้งมอมเมาประชาชน เพิ่มนักพนันหน้าใหม่ ปลูกฝังค่านิยมการเล่นการพนันให้กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา ทั้งนี้เครือข่ายฯได้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ชื่อ“มนุษย์สลาก”โดยนำลอตเตอรี่ พันรอบตัว โปรยกระจาย เพื่อสื่อถึงการคัดค้านปริมาณที่มากเกินไป

นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน กล่าวว่า จากกรณีสำนักงานสลากฯ มีมติพิมพ์สลากฯเพิ่มเป็น 90 ล้านฉบับ จากเดิม 37 ล้านฉบับ หรือเพิ่มมาถึง 53 ล้านฉบับ เพื่อจำหน่ายงวด วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ถือเป็นการพิมพ์สลากเพิ่ม 4 ครั้งในรอบปีทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาตามที่สำนักงานสลากฯกล่าวอ้าง หากย้อนดูการเข้ามาทำงานของสำนักงานสลากฯ ในรัฐบาลนี้ พบว่า ปัญหาสลากแพงยังไม่หมดไป ปัญหาพ่อค้าคนกลางหรือญี่ปั๊วยังมีอยู่และเพิ่มจำนวนมากขึ้น ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังสะท้อนชัดเจนว่า ปัจจุบันมีคนไทยซื้อสลากกินแบ่งฯ 21 ล้านคน ซึ่งเฉลี่ยแล้ว1คน จะซื้อสลากฯ4.3 ใบ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเกินควร ซ้ำยังพบสลากค้างแผงจำนวนมาก ผู้ค้ารายย่อยต้องรับภาระเอง และในยุคสื่อสารไร้พรมแดน ทำให้เกิดบรรยากาศยั่วยุการหวังโชคลาภของประชาชนรวมถึงเด็กและเยาวชน ผ่านช่องทางดังกล่าวรุนแรงมากขึ้นด้วย

นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า จากคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่11/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลาก ระบุว่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยสำนักงานสลากฯและเงื่อนไขสัญญา จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นไปโดยเคร่งครัด เพื่อประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศในด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดนั้นกลับไม่ได้แก้ปัญหาแต่อย่างใด ผลงานที่ได้ชื่อว่าเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงที่สุดในปีงบประมาณ 2561 สะท้อนว่า มุ่งหากำไรหรือรายได้จากประชาชนและคนซื้อสลากฯส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย

ด้านนายราเมศร ศรีทับทิม ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลากฯ กล่าวว่า แม้สลากจะเป็นการพนันที่ถูกกฎหมายจัดให้บริการโดยรัฐ แต่ควรควบคุมปริมาณ การเข้าถึง คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม มากกว่าเรื่องของเม็ดเงินที่จะเข้ารัฐ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นมอมเมาให้ลุ่มหลงเสพติดการพนัน อีกทั้งวิธีนี้ ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาสลากแพง มีแต่จะเพิ่มพื้นที่พนัน สร้างความคุ้นชินเด็กเยาวชนหรือกลุ่มเปราะบาง กลายเป็นนักพนันหน้าใหม่ในอนาคต และจากข้อมูลผลสำรวจสถานการณ์การเล่นการพนันในสังคมไทย ปี 2560 ของศูนย์ศึกษาการพนัน พบว่า การเพิ่มจำนวนสลาก ส่งผลทำให้ผู้เล่นเพิ่มมากขึ้น จากเดิม19.07 ล้านคนในปี 58 เพิ่มเป็น 21.43 ล้านคนในปี 60 วงเงินพนันเพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 77,143 ล้านบาท เป็น 140,549 ล้านบาท และสลากเป็นประเภทการพนันที่เพิ่มจำนวนนักพนันหน้าใหม่กว่า4แสนคน” ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน กล่าว

เครือข่ายฯขอแสดงจุดยืนและข้อเรียกร้อง ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนี้

1.ทบทวนการเพิ่มจำนวนสลาก จาก 90 ล้านฉบับ ให้กลับมาอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และสำนักงานสลากฯ ไม่ควรดำเนินการใดๆที่สวนทางกับเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการลดปัญหาการพนัน เพราะเป็นการส่งสัญญาณที่สับสนให้เด็ก เยาวชนและประชาชน ถึงจุดยืนของรัฐบาลด้วย

2.ที่ผ่านการเพิ่มสลากฯเข้าสู่ระบบ ไม่ใช่แนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายสลากฯที่ตรงจุด เพราะปัจจุบันยังพบเห็นการขายเกินราคาควบคุมอยู่เกลื่อนเมือง โดยเฉพาะการขายในแบบสลากชุด และขอให้พิจารณาการแก้ปัญหาอย่างรอบด้าน รอบคอบ คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะส่งผลต่อสังคมเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน หวังว่าการทบทวนการเพิ่มสลากฯในครั้งนี้จะนำมาสู่การดำเนินการที่โปร่งใส เกิดความเป็นธรรม และก่อประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างแท้จริง

3.ขอเรียกร้องให้กองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม มีบทบาทตามเจตนารมณ์ของ คำสั่ง คสช.ที่11/2558 ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะปัจจุบันพบว่างบประมาณดังกล่าวมีการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนน้อยมาก โดยเฉพาะการป้องกันเด็ก เยาวชน นักพนันหน้าใหม่ รวมถึงการลดผลกระทบจากการพนันในสังคมไทย

 

บุกทำเนียบ! แสดงจุดยืน-เรียกร้อง คัดค้านการเพิ่มสลากฯ บุกทำเนียบ! แสดงจุดยืน-เรียกร้อง คัดค้านการเพิ่มสลากฯ

related