บุก2โรงงานปากน้ำ เครือข่ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ผิดกฎหมาย

พลตำรวจเอก วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบโรงงาน 2 จุด ใน ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยจุดแรกอยู่ในโกดังให้เช่าแห่งหนึ่ง ในซอยที่ดินไทย หลังพบว่า โรงงานนี้ ลักลอบประกอบกิจการ ขยะมีพิษประเภทพลาสติก การตรวจสอบโรงงานแรก พบว่า มีวัตถุดิบจำพวก พลาสติก ทั้งที่ เตรียมนำไปแยกย่อย ก่อนนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล และ เตรียมนำส่ง นอกจากนี้ยังพบเครื่องจักรยังมีความร้อนตกค้างอยู่ แสดงว่ามีการทำงานก่อนหน้านี้ แต่จากการสอบถาม ผู้ดูแลโรงงานอ้างว่า หยุดดำเนินการนานแล้ว

ขณะเดียวกันยังพบคนงาน ชาวเมียนมาร์ และ จีน 13 คน ตรวจสอบแล้วพบ มีเอกสารเข้าเมืองถูกต้อง และ ทำงานภายใต้ข้อยกเว้น กระทรวงแรงงาน ส่วนความผิดที่พบ มีถึง 6 ข้อหา นับตั้งแต่ ให้การเท็จกรณีอ้างว่าไม่มีการทำงาน กระทำผิด พระราชบัญญัติโรงงานอุตสาหกรรม เช่น ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขยายพื้นที่ - ก่อสร้าง โดยไม่ได้รับอนุญาต

สำหรับโรงงานที่ 2 ที่เข้าตรวจสอบ อยู่ห่างจุดแรก  1 กิโลเมตร โดยพบ แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ และ สายไฟเก่าที่เตรียมนำมาปลอก เพื่อลอกทองแดงออก  เจ้าหน้าที่จึงสั่งปิด ห้ามประกอบกิจการตั้งแต่บัดนี้

พลตำรวจเอก วิระชัย  เปิดเผยว่า หลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ด้านมลพิษ ทั้ง กลิ่น และ สารเจือปนในอากาศ จึงประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบ 2 โรงงานดังกล่าว ซึ่งมีความเชื่อมโยง กับ โรงงานขยะอิเลกทรอนิคส์ ที่ถูกสั่งปิดหลายแห่งทั้งใน จังหวัดสมุทรปราการ และ จังหวัดฉะชิงเทราก่อนหน้านี้

เบื้องต้นตำรวจเตรียมดำเนินคดีเจ้าของในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับ การประกอบกิจการวัตถุอันตรายที่ผิดกฎหมาย  ตาม พระราชบัญญัติโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่การประชุม คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกลาโหม มีคำสั่งให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขุดรากถอนโคน ซึ่งหากไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายปกติได้ ให้เสนอใช้มาตรา 44 เพื่อดำเนินปฏิบัติการ