svasdssvasds

"ถูกทรมานสาหัส" เปิดจดหมาย ‘น้องชายแดน’ ส่งไม่ถึงพ่อแม่

"ถูกทรมานสาหัส" เปิดจดหมาย ‘น้องชายแดน’ ส่งไม่ถึงพ่อแม่

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก ด.ช.ฐปกร หรือ น้องชายแดน ทรัพย์สิน อายุ 14 ปีเสียชีวิตแล้ว ผู้ปกครองได้เข้าไปเก็บของในสถาบัน แล้วไปเจอจดหมายของน้อง ที่เขียนบันทึกไว้เตรียมส่งให้แม่ แต่ไม่สามารถส่งกลับไป เมื่อพ่อ แม่นำออกมาอ่านถึงกับร้องไห้ โดยใจความทราบว่า “ลูกมาอยู่ที่สถาบันเหมือนตกนรก ต้องถูกซ่อมตลอดเวลา ถูกทรมานสาหัส ต้องการกลับบ้านก็กลับไม่ได้ อยู่ในสถาบันแห่งนี้เหมือนอยู่ในนรก โดยกระทำ”แดก”ตลอดเวลาลำบากมาก โดยซ้อมตลอดเวลา ”ซึ่งใจความลูกน่าจะมีเรื่องอะไรกันมาก่อน แล้วลูกโดนซ่อมตลอดเวลาและมีข้อความหยาบคายหลายคำ

 

ด้านนายพิษณุ ทรัพย์สิน เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้เสียใจมากที่ลูกชายคนเดียวจากไป ครอบครัวตนเหลือกันเพียงสองคนเท่านั้น ไม่สามารถมีบุตรได้ตอนนี้ทำให้เพียงนั่งดูรูปภาพของลูกเท่านั้น อยากให้ครอบครัวของคนร้ายได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมาย อย่าออกมาสร้างความเดือดร้อนแก่สังคมอีกเลย

 

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายพิษณุ ทรัพย์สิน และนางสุวรรณา ทรัพย์สิน ไปตรวจยืนยันดีเอ็นเอที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อนำมาให้พนักงานสอบสวนยืนยันเทียบเคียงกับดีเอ็นเอของบุตรชายที่พบจากบ้านพักและไม้เบสบอลของผู้ต้องหา

ด้านนางสุวรรรณา เปิดเผย ว่า ทราบความคืบหน้าทางคดีจากสื่อมวลชนและพนักงานสอบสวน เบื้องต้นก็รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้ นำตัวมาลงโทษดำเนินคดี แต่พอทราบรายละเอียดจากสื่อมวลชนก็เสียใจมากที่ลูกมาเรียนที่นี่ และยิ่งเจ็บปวดแทนลูกที่ต้องถูกกระทำเช่นนี้ พฤติกรรมของครูณัฐผิดมนุษย์จริงๆสงสารลูกมาก จะไม่ขอรับการขอโทษจากผู้ตองหาเด็ดขาด กรุณาอย่ามาเลยไม่ยกโทษให้ อย่ามาจองเวรจองกรรมกันอีกเลย

นางสุวรรณา กล่าวต่อว่า ขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดอย่างถึงที่สุด เนื่องจากพฤติกรรมโหดร้ายมาก หากพ้นผิดออกมาลอยนวลในสังคมจะมีเด็กเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ ต้องมาสังเวยชีวิตรับบาดเจ็บเหมือนลูกตน

“เดิมไม่ต้องการให้ลูกมาเรียนที่นี่แต่ด้วยความตั้งใจของลูก จึงวางแผนให้ลูกลาออกมาเรียนระดับมัธยมต้นจาก กศน.ก่อน โดยจะจบมัธยมต้นในเทอมหน้านี้ จากนั้นจะสมัครเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 อีก 1 ปี จากนั้นจะไปสมัครสอบเตรียมทหาร โดยที่ผ่านลูกมาได้หาข้อมูลสมัครเรียนโรงเรียนกวดวิชาเอง จากข้อมูลทางอินเตอร์เนต มาเจอบ้านครูพี่ณัฐ เห็นรูป เห็นโปรไฟ พูดคุยทางเชต ลูกชายปลื้ม ศรัทธามาก จึงมั่นใจว่าครูพี่ณัฐจะสามารถติวจนสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ จึงสมัครมาเรียนทั้งที่ตนไม่เต็มใจ แต่เพื่ออนาคตลูกจึงยอมให้มาเรียนโดยทางสถาบันกวดวิชาเป็นคนวางแผนการเรียนให้ทั้งหมด”แม่กล่าวและว่า ส่วนค่าใช้จ่ายในการศึกษาในปีแรกเข้าต้องเสยีเงิน 210,000 บาท ปีที่สองเสีย 250,000 บาท ไม่รวมค่าที่พัก อาหาร ในปีที่สอง ที่ผ่านมาช่วงแรกให้ผู้ปกครองเข้าพบได้ตามตกลงกันไว้สัปดาห์ละ 1 ครั้งพาลูกไปนอนบ้านได้ 1 วัน ต่อมาครูณัฐเริ่มอ้างว่าลูกต้องเก็บตัวไม่สามารถพบได้ ต้องอ่านหนังสือ เริ่มห่างติดต่อลูกไม่ได้ต้องนักพบลูกล่วงหน้ากำหนดวันมาพบได้ มาทราบอีกครั้งก็ได้รับโทรศัพท์จากครูณัฐว่าลูกหัวแตก แต่ว่าลูกแขนหัก และที่ผ่านมาสังเกตว่าลูกซึมเศร้าตลอด

related