สะเทือนใจ เป็นอาสาฯช่วยลูกตัวเองจากศาลาถล่มไม่ได้

จากกรณี ร้านอาหารศาลาทรงไทย ประมาณ 40-50 ปี ริมแม่น้ำแม่กลอง บริเวณท่าเทียบเรือแสงวณิช ติดวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พังถล่มจมน้ำ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 20 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่าง นางสุรีพร อุราชื่น หนึ่งในผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้ ช่วงกลางดึกวันเกิดเหตุ ก่อนจะยุติการค้นหาผู้เสียชีวิตอีกราย เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่อำนวย มืดและน้ำขึ้นสูง

ต่อมาวานนี้ (17 ก.ค.) เจ้าหน้าที่เริ่มปฎิบัติการค้นหาอีกครั้ง โดยทีมชุดประดาน้ำ พบศพ น.ส.พรพิไล เสือเล็ก อายุ 24 ปี ผู้เสียชีวิตรายที่ 2 อยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่ม ตรงข้ามกับที่พบร่างนางสุรีพร เจ้าหน้าที่จึงใช้รถเครนขนาด 25 ตัน เร่งเก็บกู้ซากอาคารขึ้นมาก่อนกู้ร่างน.ส.พรวิไล ขึ้นมาได้สำเร็จ

ทางด้าน นายวินัย เสือเล็ก พ่อของ น.ส.พรวิไล บอกว่า ตัวเองเป็นหนึ่งในอาสาสมัครที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุ และสามารถช่วยขึ้นมาได้หลายราย แต่เสียใจที่ช่วยเหลือลูกสาวตัวเองไม่ได้ ซึ่งตอนแรกไม่ทราบด้วยซ้ำว่าลูกไปกินข้าวที่ศาลาริมแม่น้ำ จากนี้นายวินัยต้องดูแล ลูกของลูกสาวที่อายุเพียง 4 ขวบด้วย แต่ยังไม่รู้จะบอกหลานอย่างไรว่าแม่เสียชีวิตถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นางสุรีย์ อุราชื่น บรรยากาศในงาน มีเพียงญาติและเพื่อนสนิท ที่เดินทางมารดน้ำศพ ซึ่งวานนี้เป็นการสวดเป็นคืนแรก ทุกคนที่มางาน เสียใจจนพูดอะไรไม่ออก บอกแต่เพียงว่าเป็นเรื่องที่เกิดเร็วมากยังทำใจไม่ได้ ด้านเพื่อนผู้เสียชีวิต บอกว่า นางสุรีย์ เป็นคนดีขยันทำงาน ไม่น่าจากไปเร็ว

ทั้งนี้หลังจากเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้ครบทั้ง 2 รายแล้ว ยังเหลือการเคลียร์พื้นที่อีกมาก จ.สมุทรสงคราม ได้ออกประกาศให้พื้นที่บริเวณท่าเรือข้ามฟากแสงวณิช อาคารศาลาริมน้ำตลอดแนวจนถึงบริเวณกำแพงวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ด้านซอยวัดเพชรสมุทร 2 เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยและห้ามบุคคลหรือหน่วยงาน ผู้ประกอบการ ร้านค้า เข้าหรือใช้ประโยชน์พื้นที่ดังกล่าวโดยเด็ดขาด