วิระชัย ลุยเองคดีรุมโทรม "น้องกิ๊ฟ" - ญาติทวงผลชันสูตรศพยังล่าช้า

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะเดินทางร่วมประชุมและติดตามคดีผู้ต้องหารุมโทรม "น้องกิ๊ฟ" อายุ 21 ปี เสียชีวิต ที่ จังหวัดจันทบุรี ขณะที่ญาติได้ถามถึงผลชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตที่ยังล่าช้า รวมถึงประเด็นการเข้าตรวจค้นเก็บหลักฐานของตำรวจในห้องน้องกิ๊ฟ ว่าไปพบยาตัวไหนบ้าง และเกี่ยวข้องกับสาเหตุการเสียชีวิตของน้องกิ๊ฟหรือไม่ เนื่องจากทราบมาว่าพบยาลดความอ้วนในห้องด้วย

พล.ต.อ.วิระชัย ชี้แจงว่าในส่วนของตัวยาที่ได้จากห้องน้องกิ๊ฟ เบื้องต้นได้นำตัวอย่างสอบถามกับเภสัชกร ผู้เชี่ยวชาญว่าเป็นชนิดเดียวกับยาลดความอ้วนหรือไม่ และหากใช่จะมีผลต่อประสาทกล้ามเนื้อหัวใจมากน้อยแค่ไหน ถึงขั้นเสียชีวิตหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าพบสารจากตัวยานี้จริงก็จะสามารถตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝงจากซองยา ว่าสรุปแล้วเป็นยาที่น้องหยิบกินเองหรือไม่ หรือมีลายนิ้วมือผู้อื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะสามารถชี้ความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องยาได้ชัดเจน

จากนั้น พล.ต.อ.วิระชัย พร้อมด้วย ตำรวจสืบสวนชุดคลี่คลายคดี และ 3 หญิงสาวที่เกี่ยวข้องกับคดีเดินทางมาด้วย พร้อมกับจำลองเหตุการณ์ ระหว่างที่อยู่ในผับ เพื่อนำข้อมูลมาประมวลผลกับพยานหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิด โดยหลังจากที่จำลองเหตุการณ์เสร็จ พล.ต.อ.วิระชัย ได้ชี้แจงสรุปความคืบหน้า แบ่งเป็นประเด็นสำคัญได้แก่

ประเด็นแรก จากการสอบสวน สาเหตุการเสียชีวิตไม่เกี่ยวข้องกับการประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะไม่มีทรัพย์สินสูญหาย ส่วนเรื่องเงินในบัญชีผู้ตาย ที่มีการกล่าวอ้างว่าสูงถึงหลักล้าน นั้นไม่เป็นความจริง เพราะยอดเงินดังกล่าวเป็นยอดรวมระยะเวลา 2 ปี ที่เดินบัญชีตามปกติ แต่ต้องตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง อีกทั้งผู้ตาย ไม่เกี่ยวกับการค้ายาเสพติด หรือธุรกิจสีเทา หรือขบวนการปล่อยเงินกู้ และไม่ได้เป็นนอมินี ของนักธุรกิจแต่อย่างใด ส่วนเรื่องชู้สาวไม่มีน้ำหนัก เพราะไม่เคยมีเรื่องพิพาทเรื่องชู้สาวมาก่อน สาเหตุไม่ได้มาจากการฆาตรกรรมไม่ได้มาจากการตัดตอนเรื่องผิดกฏหมาย ไม่ได้ถูกมอมเหล้าแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการน็อคหมอสติ และถูกสารกระตุ้นทางเพศหรือไม่ รวมถึงเรื่องของยาลดความอ้วนที่พบในห้อง ต้องรอผลการชันสูตรจากแพทย์ ขณะที่สาเหตุของรุมโทรมครั้งนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนการสอบสวนเพิ่มเติมหากพบพาดถึงผู้ใดก็จะดำเนินคดีตามกฏหมาย

คดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะขาม ได้จับกุมผู้ต้องหาแล้ว 4 ราย จากนั้นตรวจสอบกล้องวงจรปิดในสถานบันเทิงและตามเส้นทางที่ผู้ต้องหาพาน้องกิ๊ฟไปรุมโทรมจนเสียชีวิต พบว่าอาจจะมีผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่ร่วมในการก่อเหตุครั้งนี้ด้วย และเตรียมขออนุมัติศาลจังหวัดจันทบุรีออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย ส่วนสถานบันเทิงที่เป็นจุดเกิดเหตุมีการปล่อยให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ และปล่อยปละละเลยไม่ดูแลนักท่องเที่ยวจนเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน รวมถึงอาจจะทำการถอนใบอนุญาต