svasdssvasds

เปิดใจญาติพลทหารโดนรุ่นพี่ซ่อม จนน็อกหัวใจหยุดเต้น [คลิป]

เปิดใจญาติพลทหารโดนรุ่นพี่ซ่อม จนน็อกหัวใจหยุดเต้น [คลิป]

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

น.ส.กาญจนาภรณ์ สีหะวงค์ เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า  หลานชายของตนเองชื่อนายคชา พะชะ อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ทหาร โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหา นางรุ่นฤดี สีหะวงค์ อายุ 45 ปี แม่ของนายคชา ว่า ลูกชายได้ถูกหามส่งโรงพยาบาลอานันทมหิดล อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี เนื่องจากมีอาการน็อก ระหว่างออกไปซ้อม ซึ่งบรรดาญาติทุกคนก็คิดว่าไม่มีอะไรร้ายแรง คงแค่ฝึกหนักไปเพียงเท่านั้น หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาทีก็ได้มีโทรศัพท์ติดต่อมาจากโรงพยาบาลฯ ว่านายคชา เกิดอาการหัวใจหยุดเต้น ซึ่งทางแพทย์ได้ทำการปั๊มหัวใจมา 15 นาทีแล้ว ญาติจะอนุญาตให้ปั้มหัวใจต่อหรือไม่ เพราะเนื่องจากอาจจะเกิดเหตุซี่โครงหักได้ ระหว่างนั้นทุกคนก็เกิดตกใจและหวั่นวิตกกันเป็นอย่างมาก และก็ยืนยันว่าให้ปั๊มจนกว่าหัวใจจะเต้น

น.ส.กาญจนาภรณ์ กล่าวว่า หลังจากนั้นทุกคนภายในบ้านก็ได้รีบเดินทางออกจาก อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ไปถึงโรงพยาบาลประมาณ 6 โมงเช้า พบว่าหลานอยู่ในห้องไอซียู และใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งคุณหมอบอกว่าโอกาสรอดมีแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ และให้แม่ทำใจ ถ้าฟื้นขึ้นมาอาจจะไม่เหมือนเดิม เพราะสมองขาดออกซิเจนนาน เนื่องจากหัวใจหยุดเต้นไป 2-3 ครั้ง ตอนมาถึงโรงพยาบาลก็มีอาการไตวายด้วย อย่างไรก็ตาม นางรุ่นฤดี สีหะวงค์ อายุ 45 ปี แม่ของนายคชา ได้เข้าไปหาหลานที่ห้องไอซียู หลานก็ลืมตามอง และน้ำตาไหล ก่อนหลับไป แต่ยังขยับร่างกายไม่ได้ จากนั้นในช่วงสาย ก็ได้มีนายทหารคนหนึ่งซึ่งมียศพันโทโทรศัพท์ติดต่อมายอมรับว่า นายคชาไม่ได้น็อกไปเอง มีพลทหารรุ่นพี่ 3 คน ทำการซ่อมจริง ตอนนี้สามารถจับทั้ง 3 คน ขังคุกทหารไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินคดีอะไร เบื้องต้นทั้ง 3 คน รับสารภาพว่าซ่อมรุ่นน้องจริง นายทหารคนดังกล่าวก็บอกว่าจะรักษาและดูแลเต็มที่ แต่ไม่อยากให้เป็นข่าว

 

น.ส.กาญจนาภรณ์ กล่าวต่อว่า ในขณะเดียวกันพี่สาวของตนซึ่งเป็นแม่หลานบอกว่า ได้จับตัวน้องพลิกดูเบื้องต้นพบว่าตามหน้าอกและเอวมีรอยบวมขึ้นมา แต่แม่ไม่กล้าดูเยอะ เพราะทำใจไม่ได้ หลังจากที่เข้าไปเยี่ยมรอบแรกยังสามารถถ่ายรูปหลานได้ แต่ต่อมากลับมีทหารเข้ามายืนคุมไม่ให้ถ่ายรูป ตอนนี้อาการหลานยังทรงตัว และต้องรอดูอาการไปเรื่อยๆ ทางครอบครัวก็ร้อนใจ เพราะเห็นว่าอาการหลานไม่ดีขึ้นเลย และอยากย้ายไปโรงพยาบาลอื่น แต่นายทหารคนดังกล่าวก็เกลี้ยกล่อม แล้วถามว่า แม่จะมีเงินรักษาเหรอ และพูดจาเหมือนกับว่าน้องจะไม่ฟื้น ตนจึงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยตรวจสอบ และเร่งรัดพาหลานชายตน ไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนที เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานหลานชายตน อาจจะไม่ได้มีโอกาสฟื้นคืนมาก็ได้ สำหรับนายคชา พะชะ อายุ 22 ปี มีภรรยาตั้งท้อง และลูกสาว อีก 1 คน ก่อนที่จะเข้าประจำการเป็นทหารเกณฑ์เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2560 และได้เข้าไปอยู่ในหนักสูตรส่งทางอากาศ คือการกระโดดร่ม จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งครั้งล่าสุดที่ได้มีการพูดคุยกัน นายคชา ยืนยันว่า หลังจากที่ปลดประจำการทหารก็จะกลับไปบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ แต่กลับต้องพบเจอกับสิ่งเหล่า ทุกคนภายในครอบครัวก็ต่างทำใจกันไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และอยากจะฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวเราด้วย

related