svasdssvasds

ทนไม่ไหว "อ.ตุ๊ก" ยอมมอบตัวสู้คดีอมเงินวิ่งมาราธอน - โดนแฉเงินสะพัดกว่า 8ล้าน [คลิป]

ทนไม่ไหว "อ.ตุ๊ก" ยอมมอบตัวสู้คดีอมเงินวิ่งมาราธอน - โดนแฉเงินสะพัดกว่า 8ล้าน [คลิป]

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ความคืบหน้ากรณีวิ่งมาราธอนฉาว “เดิน-วิ่งการกุศล ชลบุรี มาราธอน 2018” มีการ พาดพิงถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการจัดทำบัญชีทั้งหมดว่า คือ นายธงชัย เจียรนัย หรือ อ.ตุ๊ก ซึ่งเป็นผู้ถือเงินทั้งหมด

“อาจารย์ตุ๊ก” เตรียมย้ายบ้านหนีดราม่าวิ่งมาราธอน – ทีมจัดจี้เคลียร์เงินหายไปไหน ?

ล่าสุด เวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา นายธงชัย เจียรนัย หรือ อ.ตุ๊ก ไม่สามารถทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่่และกระแสสังคม รวมทั้งมีบุคคลที่เกี่ยวข้องโทรศัทพ์เข้าเกลี้ยกล่อมให้ออกมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจของ จึงยินยอมออกจากบ้านและเดินทางไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสม็ด ทำการสอบปากคำแล้ว โดยได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกันนักข่าวไม่ให้เข้าใกล้ เนื่องจากไม่ต้องการเป็นข่าว

ทั้งนี้จากการตรวจสอบจากทะเบียนราษฏรอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสม็ด พบว่าไม่มีชื่อนายธงชัย เจียรนัย อยู่ในทะเบียนราษฏรของกระทรวงมหาดไทย แต่กลับพบชื่อ นายโชคชัย ก่อการรวด อายุ 48 ปีแทน จึงเชื่อว่า อ.ตุ๊ก น่าจะใช้ชื่อปลอมตั้งแต่เข้ามาทำกิจกรรมเดินวิ่งการกุศลในครั้งนี้

ขณะที่บรรยากาศที่ สภ.เสม็ด ก็เป็นไปอย่างคึกคักด้วยกองทัพสื่อมวลชนจากหลายสำนักที่เข้าติดตามข่าว โดย พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพรียวพานิช รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เดินทางมาสอบปากคำ อ.ตุ๊ก หรือชื่อจริง นายโชคชัย ก่อการรวด อายุ 48 ปี ด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เปิดเผยว่าขณะนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหา นายโชคชัย หรือ อ.ตุ๊ก แต่อย่างใด เพียงแต่อยู่ในขั้นตอนของการสอบปากคำซึ่งหากพบว่ามีมูลความผิดก็สามารถดำเนินคดีได้ทันที แต่หากในเบื้องต้นยังไม่พบว่าเข้าข่ายการกระทำผิดก็จำเป็นต้องปล่อยตัวไปก่อน อย่างไรก็ตามในเรื่องของคดีฉ้อโกงถือเป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความกันได้ ดังนั้นหากต่อไปเจ้าหน้าที่มีหลักฐานเอาผิดก็สามารถดำเนินคดีกับนายโชคชัยได้แม้จะถูกปล่อยตัวไปก็ตาม นอกจากนั้นยังพบว่าเริ่มมีประชาชนและนักวิ่ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในชมรมเดินวิ่งสวนหลวง ร.9 ชลบุรี ที่ไม่ได้รับเงินค่าจ้างในการทำงาน พากันเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกด้วย

สำหรับ บรรดาผู้เสียหายในการจัดวิ่งได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับคณะผู้จัดงานรวมทั้งหมด 13 คน น.ส.ชลธิชา โสภา อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่เข้ามาร่วมดำเนินการวิ่งในครั้งนี้กล่าวว่า ตนมารับผิดชอบเกี่ยวกับรายชื่อนักวิ่งทั้งหมด ทำงานมานานกว่า 8 เดือน คนว่าจ้างให้ทำงานนี้ได้ติดค่าจ้างไว้ทั้งหมด 1 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีพรรคพวกอีกหลายคนและจะเดินทางมาแจ้งความด้วยเช่นกัน

 ทางด้าน น.ส.จารึก สุขปรอด อดีตเหรัญญิกชมรมเดินวิ่งสวนหลวง ร.9 ชลบุรีกล่าวว่า ตนได้ถูกให้เป็นผู้เปิดบัญชีช่วงที่ทำงานวิ่งในครั้งนี้ พร้อมทั้งทำเอทีเอ็ม เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเบิกจ่ายเงิน ปรากฏว่าพบว่าทีมงานมีการจ่ายเงินสุรุ่ยสุร่ายทำใจไม่ได้ จึงได้ขอลาออกไปก่อนที่จะจัดงานวิ่ง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว แต่แปลกใจในเรื่องเงินจึงได้ไปขอสเตทเมนท์ธนาคารดูพบว่ามีเงินเคลื่อนไหวทั้งหมด 8.2 ล้านบาท เท่าที่จำได้ การที่มาปรากฏตัวครั้งนี้เนื่องจากไม่สบายใจ และพร้อมที่จะแจ้งความดำเนินคดีด้วย ที่สำคัญยังมีหลักฐานที่ตนเองมากมาย

 

related