svasdssvasds

โรงครัวสวนนงนุชสร้างงานช่วยชุมชน

สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในสวนนงนุช คือร้านอาหารต่างๆ ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว เราจะพาคุณผู้ชมไปสำรวจโรงครัว ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่สำคัญที่สุด และเป็นหัวใจของการช่วยชุมชนและสร้างงานได้หลายร้อยตำแหน่ง

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในสวนนงนุชคือการเรียนทำอาหาร ห้องเรียนแห่งนี้ต้อนรับผู้คนได้เกือบร้อยคน เมนูที่จะใช้สอนนักเรียน ต้มยำกุ้ง ต้มข่าไก่ แกงเขียวหวาน สลัดโรล ส่วนเมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือผัดไทยและส้มตำ

นักเรียนจะต้องสวมชุดที่เตรียมไว้ให้ โดยผู้สอนคือเชฟอำพัน ซึ่งเป็นผู้ดูแลสถานที่นี้

เจ๊บอกว่าเคล็ดลับของการทําส้มตําให้อร่อยคือลำดับของการใส่วัตถุดิบ และการตำให้แหลกพอดีเข้าน้ำเข้าเนื้อ ซึ่งจะทำให้รสชาติของส้มตำแตกต่างกันไป

ส่วนอีกหนึ่งเมนูที่รับความนิยมก็คือผัดไทย เชฟบอกว่าเคล็ดลับคือการผัดเส้นให้เร็ว ส่วนวัตถุดิบที่ใช้สอนนักเรียนเหล่านี้ เป็นผลผลิตมาจากโรงครัวกลาง ซึ่งมีหน้าที่ในการรับวัตถุดิบจากชุมชน นำมาล้างหั่นแปรรูป เพื่อที่จะส่งไปให้กับร้านอาหารที่อยู่ภายในสวนนงนุช ที่มีถึง 5 จุดด้วยกัน

พี่ๆเหล่านี้จะใช้เวลาอยู่ในโรงครัวทั้งวันเพื่อปอกหั่นสับและเตรียมวัตถุดิบทั้งหมด อย่างวันนี้ใช้แครอท 80 กิโลกรัมกะหล่ำปลี 100 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีส่วนเบเกอรี่ และได้จังหวะพอดีเมื่อทีมงานเดินเข้าไป เอแคลร์ร้อนๆออกมาจากเต๋าพอดี เชฟได้ใส่ครีมชีสบลูเบอรี่และให้ทีมงานได้ลองชิมด้วย ส่วนขนมไทย ไม่ขาดค่ะ พนักงานกำลังเตรียม ถ้วยตะโก้ ใช้เตยหอมที่ปลูกในสวน และยังมีวุ้นใบเตยแฟนซีที่พร้อมรับนักท่องเที่ยวด้วย

โรงเรียนแห่งนี้มีพนักงาน 60 คน แต่ละคนมีหน้าที่ประจำ ที่สำคัญสวนนงนุชได้รับซื้อวัตถุดิบจากชุมชนและชาวบ้านบริเวณโดยรอบ เป็นการส่งเสริมให้คนในพื้นที่มีรายได้และมีงานทำ นอกจากวัตถุดิบที่ซื้อจากชุมชนแล้วยังมีผักสลัดที่ปลูกเองมากถึง 93 แปลง ถูกนำมาใช้ในร้านอาหาร ซึ่งการสอบถามผู้ดูแลสวนผัก พบว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้ผักสลัดเติบโตได้ดีและงาม คือการผสมดินให้ถูกต้อง โดยผักสลัดที่อยู่ในจานอาหารของที่นี่ เป็น organic ทั้งหมดและมีให้เก็บตลอดทั้งปี วิลาสินี แวนฮาเรนรายงาน

related