ตลาดเก่า ต.กบินทร์ ปราจีนฯ ถูกน้ำเอ่อท่วมกว่าครึ่งเมตร และเพิ่มขึ้น 6 ซม./ชั่วโมง

วันนี้ 23 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรีรายงานสถานการณ์คืบหน้าน้ำจากต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี เอ่อท่วมชุมชนตลาดเก่าเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำตั้งติดต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 30 -50 ซม. ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 60 ครอบครัว เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องรวม 2วัน ส่งผลให้น้ำด้านทิศเหนือไหลหลากลงมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีผ่านแควหนุมาน ซึ่งมาบรรจบรวมกันกับแควพระปรง ที่มวลน้ำปริมาณมากเช่นกัน ไหลมาจากเทือกเขาสอยดาว จ.สระแก้ว ไหลรวมกันเป็นต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี ที่ อ.กบินทร์บุรี น้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว และเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนชุมชนตลาดเก่า ตามที่เสนอไปก่อนหน้านี้ นั้น

นายรังสรรค์ บุตรเนียร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า “ ระดับน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี จุดวัดหน้าสถานีอุตุฯกบินทร์บุรี เวลา06.00 น.เช้านี้ (23ก.ย.) วัดได้ 9.17 เมตร (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 1.05 ม.) ปริมาณฝน 18.7 มิลลิเมตร ปริมาณฝนรวมทั้งปี 1193.9 มิลลิเมตรเปรียบเทียบกับปี 2561 ฝนรวมทั้งปี 1947.8 มม.(ตั้งแต่ม.ค.-ปัจจุบัน)ความสูงของตลิ่งฝั่งซ้าย 8.97 เมตร ความสูงของตลิ่งฝั่งขวา 9.24 เมตร

ล่าสุด เวลา09.00 น. ระดับน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี จุดวัดหน้าสถานีอุตุฯกบินทร์บุรี วัดได้ 9.22 เมตร (เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง) โดยจุดวิกฤติชุมชนตลาดเก่ากบินทร์บุรี อยู่ที่ 8.79 ม. (น้ำเอ่อล้นจากต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีข้ามถนนด้านท้ายชุมชน) สภาพน้ำท่วมสูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ย ชม.ละ 6 ซม. อย่างต่อเนื่อง โดยจุดวิกฤติชุมชนตลาดเก่ากบินทร์บุรี อยู่ที่ 8.79 ม. น้ำล้นจากต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีข้ามถนนด้านท้ายชุมชน ล่าสุดน้ำที่ท่วม ได้ขยายเข้ามาถึงกลางตลาด ระดับน้ำระหว่าง 50 – 60 ซม. ชาวบ้านถูกน้ำท่วมประมาณ 80 ครอบครัว”

“ซึ่งภาวะน้ำที่ท่วม ดังกล่าวนี้ ยังไม่รุนแรง สามารถดูแลชุมชนได้ เป็นภาวะปกติของชุมชนตลาดเก่าที่อยู่พื้นที่ลุ่มต่ำติดกับริมฝั่งของต้นแม่น้ำปราจีนบุรี ไม่ได้รับผลกระทบ โดยได้เตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมในชุมชนตลาดเก่ากบินทร์ โดยดำเนินการประกาศแจ้งเตือน ให้ประชาชนในตลาดเก่าและริมฝั่งแม่น้ำได้ทราบ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่เทศบาล,หน่วยทหารจากกรมทหารราบที่ 2 พัน 3 รักษาพระองค์ (กรม ร.2 พัน 3 รอ.) หรือ หน่วยรบบูรพาพยัคฆ์ ช่วยพี่น้องประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ซึ่งดำเนินการทุกหลังคาเรือนที่ร้องขอ” นายรังสรรค์กล่าว

และกล่าวต่อไปว่า “พร้อมกันนี้ได้ประสานงานกับกรมชลประทาน เปิดประตูน้ำเพชรเอิม ให้น้ำจากแม่น้ำระบายเข้าทุ่งวังดาล และ ทุ่งแขนนางพร้อมกับประสานชลประทาน จ.สระแก้ว ขอทราบระดับน้ำและปริมาณน้ำฝน อย่างต่อเนื่องโดยมอบหมายสถานีอุตุนิยมวิทยากบินทร์บุรี ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยทางเทศบาลฯ จัดตั้งเต็นท์ เพื่อจัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือ ณ บริเวณท่าน้ำตลาดเก่ากบินทร์และเตรียมเรือท้องแบนไว้ให้พร้อมไม่ประมาท”นายรังสรรค์กล่าว

ขณะที่นางอรวัน ปัญญา อายุ 54 ปี เลขที่ 232 ชุมชนตลาดเก่า เทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า “เช้ามาพบน้ำท่วมขึ้นถึงชั้นล่างที่ใช้ประกอบหุงหาอาหาร น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ มาเร็ว เนื่องจากมาพร้อม ๆ กันทั้ง 2แคว โดยน้ำมาจากแควพระปรง จ.สระแก้ว และ น้ำจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.นาดี ผ่านแควหนุมาน มวลน้ำมาพร้อมกันมากทั้ง 2 แคว ส่งผลให้น้ำต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่น้ำท่วมเป็นเรื่องปกติ เกรงแต่ว่าจะท่วมนาน โดยชั้นบนใช้เป็นที่พักอาศัยรวมกว่า 10 คน”นางอรวัน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม กรณีที่น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก ไหลหลากล้นคลองลำพญาธาร จนคอสะพานขาด และน้ำท่วมสะพานที่เชื่อมระหว่าง 2 หมู่บ้าน คือบ้านบุพราหมณ์ใน หมู่ที่ 3 กับหมู่บ้านวังหินหมู่ 7 อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ที่สะพานอยู่ต่ำ และ ยังท่วมถนนทางเข้าติดริมคลอง ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2- 3 เมตร ในวันที่ 22 ก.ย.62 ชาวบ้านข้ามไป –มาไม่ได้ ตามที่เสนอ อย่างต่อเนื่องนั้น

นายนพดล งามเหลือนายอำเภอนาดี ได้ระดมทุกภาคส่วน เร่งหาทางทำสะพาน ช่วยให้ชาวบ้านออกมาจากในหมู่บ้านได้

ซึ่งนายนภดลได้ประสานขอความนุเคราะห์จากการไฟฟ้า อ.นาดี เพื่อขอสนับสนุนเสาไฟฟ้ามาทำเป็นสะพานชั่วคราวให้ประชาชนข้ามไปมาได้ ขณะที่น้ำในคลองลำพญาธารได้ลดลงระดับลงเรื่อยๆ ในช่วงเย็นวันเดียวกันนายพนา ศาสตร์พันธุ์ผอ.การไฟฟ้า อ.นาดี นำเสาไฟฟ้าแรงสูงยาว 8 เมตร จำนวน4 ต้น มาวางเป็นพื้นทางเดิน ให้ประชาชนข้ามไป-มาชั่วคราวได้ ท่ามกลางการรอคอยอย่างใจจดใจจ่อของประชาชนกว่า 300 คน ที่อยู่ภายในหมู่บ้านเวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงใช้รถแบคโฮยกเสาไฟฟ้าวางเป็นทางเดินข้ามได้

โดยมีกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 12 ( มทบ.12 ) หน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย (อ.กบินทร์บุรี) ร่วมช่วยเหลือร่วมกับผู้นำท้องถิ่น ทุกคนต่างใจที่นายอำเภอไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งให้การช่วยเหลือเร่งด่วน จากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในครั้งนี้ไม่มีใครสูญหาย หรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด