เกสต์เฮ้าส์เชียงใหม่เดือดร้อน โดนพ.ร.บ.โรงแรม วอนนายกฯช่วย

( 30 พ.ค.61) ตัวแทนผู้ประกอบการเกสต์เฮ้าส์และธุรกิจท่องเที่ยวกว่า 200 คน รวมตัวกันที่หน้าสภาทนายความจังหวัดเชียงใหม่ ถือป้ายเรียกร้องไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาหลังผู้ประกอบกิจการเกสต์เฮ้าส์มากกว่า 1,000 แห่ง ได้รับผลกระทบจาก พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 ที่ถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดี ก่อนจะยื่นหนังสือพร้อมนำรายชื่อผู้ประกอบกิจการกว่า 1,000 รายชื่อ ให้กับพรศักดิ์ สังข์สังวาลประธานสภาทนายความจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้หาแนวทางด้านกฎหมายเข้าช่วยเหลือ

นายถนอม ชำนาญกิจ ตัวแทนผู้ประกอบกิจการ เปิดเผยว่า เกสต์เฮ้าส์ส่วนใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นธุรกิจขนาดเล็ก เจ้าของเกือบทั้งหมดเป็นชาวบ้านในชุมชนที่เปลี่ยนอาคารและบ้านที่อยู่อาศัยเป็นเกสต์เฮ้าส์ ซึ่งที่ผ่านมาเสียภาษีโรงเรือนและภาษีสรรพากรมาโดยตลอด แต่หลังจากที่ พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 ใช้บังคับ เพื่อให้เกสต์เฮ้าเข้าสู่ระบบเดียวกันกับโรงแรม โดยเฉพาะเรื่องของอาคารสิ่งปลูกสร้าง

แม้จะมีกฎกระทรวงมาผ่อนผันให้เวลาผู้ประกอบการไปขออนุญาตและปรับเปลี่ยนอาคารให้ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นอาคารเก่า ไม่สามารถขออนุญาตปรับเปลี่ยนโครงสร้างของอาคารได้ เพราะติด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถขออนุญาตได้ โดยในวันที่ 19 ส.ค. 61 กฎกระทรวงที่ผ่อนผันให้ไปขอใบอนุญาต จะสิ้นสุดลง จะทำให้เกสต์เฮ้าส์หลายแห่งผิดกฎหมายอย่างเต็มตัว

นายถนอม บอกว่า จังหวัดเชียงใหม่มีเกสตเฮ้าประมาณ 2,000 แห่ง ล่าสุดมีที่สามารถปรับเปลี่ยนและขอใบอนุญาตได้ประมาณ 300 ราย ส่วนที่เหลือพันกว่ารายเริ่มทยอยโดนจับ ทำให้ล่าสุดผู้ประกอบการเกสต์เฮ้าส์ตัดสินใจหยุดให้บริการชั่วคราว เพราะกลัวถูกจับ และได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือผ่อนผันหลักเกณฑ์  ขณะที่นายพรศักดิ์ สังข์สังวาลย์ ประธานสภาทนายความจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า จะส่งเรื่องไปยังสภาทนายความ เพื่อหาแนวทางด้านกฎหมายเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน