ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
หลังจากนายศักดิ์ชัย สุพันธมาตย์ อายุ 39 ปี ชาวบ้านหนองไผ่ จังหวัดอุดรธานี นำอิฐิของภรรยาเดินขึ้นถึงยอดดอยอินทนนท์ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 26 สิงหาคม) หลังใช้เวลากว่า 1 ปี 7 เดือน เดินเท้าจากจังหวัดตรังมายังจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับสุนัขคู่ใจสองตัว คือ เจ้ากระเช้า และนโม เพื่อนำอัฐิภรรยาขึ้นไปเที่ยวและทำบุญยอดดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ตามคำสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะพาภรรยามาเที่ยวก่อนเสียชีวิต
ล่าสุดเช้าวันนี้ ( 27 สิงหาคม) เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ได้รับนายศักดิ์ชัย จากบ้านพักเจ้าหน้าที่ภายในลานกางเต้นท์ดงสน เดินทางมายังบ้านแม่กลางหลวง เพื่อร่วมพิธีทำบุญสมโภชพระพุทธรูป ของพุทธอุทยานแม่กลวงหลวง ปาเกอญออาราม โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ซึ่งเข้ามาทักทายและกล่าวให้กำลังใจ พร้อมขอถ่ายภาพกับนายศักดิ์ชัยเป็นที่ระลึก ขณะที่นายศักดิ์ชัย ได้ร่วมเดินในขบวนแห่พระพุทธรูปใหม่กับชาวบ้านเผ่าปกาเกอญอบ้านแม่กลางหลวง จากนั้นได้ร่วมรับประทานอาหารจากโรงทานที่นำอาหารมาเลี้ยงภายในงานครั้งนี้ด้วย
นายศักดิ์ชัย กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกดีใจมากไม่คิดไม่ฝันว่าจะเดินทางถึงยอดดอยอินทนนท์ ได้บอกกับอัฐิของภรรยาว่า พามาทำบุญบนยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศแล้วนะ พร้อมอธิษฐานให้ภรรยาขึ้นสวรรค์ ทุกวันนี้ยังคิดถึงภรรยา และอยากขอให้เกิดมาได้เป็นคู่กันทุกๆชาติไป ตลอดเส้นทางที่เดินมาเกือบ 2 ปี คิดถึงภรรรยาตลอด ได้กินอาหารอร่อยที่ภรรยาชอบก็จะคิดถึง เห็นธรรมชาติที่สวยงามก็คิดถึง อยากให้ภรรยาได้มาเห็นด้วยกัน แต่วันนี้ต้องมาดูคนเดียว ถ้าวันนี้ภรรยายังมีชวิตอยู่ก็คงได้มาเห็นด้วยกันอย่างแน่นอน
“ทุกวันนี้ แม้ได้กำลังใจจากชาวบ้านตลอดเส้นทางที่เดินทางมา ซึ่งก็ช่วยให้คลายความทุกข์ไปได้บ้างแต่ก็ยังมีสัดส่วนเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ เพราะอีก 99 เปอร์เซ็นต์ยังคงคิดถึงและรักภรรยาไม่เสื่อมคลาย” นายศักดิ์ชัยกล่าว
โดยหลังร่วมงานบุญกับชาวบ้านที่แม่กลางหลวงในช่วงเช้าวันนี้แล้ว นายศักดิ์ชัย จะเดินทางมาพักที่ร้านกาแฟอุ่มเอิบ ตามคำเชิญของเจ้าของร้าน ซึ่งอยากให้นายศักดิ์ชัยมาพักที่โฮมสเตย์ของทางร้านในคืนนี้ เพราะอยากพาอัฐิภรรยา สัมผัสกับธรรมชาติที่ดอยอินทนนท์ให้เต็มอิ่มก่อน จากนั้นพรุ่งนี้ ( 28 สิงหาคม) นายศักดิ์ชัย จะเริ่มออกเดินเท้าลงจากดอยอินทนนท์ และแวะรับสุนัข 2 ตัวที่ฝากไว้บริเวณด่านป่าไม้ที่ 1 เพื่อเดินทางต่อไป โดยตั้งใจว่าจะเดินไปเรื่อยๆและแวะทำบุญตามเส้นทางที่เดินผ่าน คาดว่าจะกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดอุดรธานีภายในปี 2563