มอบตัวแล้ว "โชเฟอร์รถแดงเชียงใหม่" หัวร้อนชักมีดดาบขู่เก๋ง อ้างโมโหโดนยั่วยุก่อน [คลิป]

คลิปภาพวงจรปิดของเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่ติดตั้งบริเวณถนนมณีนพรัตน์ อ.เมืองเชียงใหม่ บันทึกเหตุการณ์รถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ทะเบียน งท 245 เชียงใหม่ ขับเลี้ยวขวามาจากแยกแจ่งหัวริน โดยมีรถสี่ล้อแดงขับตามหลังมา จากนั้นคนขับสี่ล้อแดงได้ชูมีดดาบยาวออกมาจากหน้าต่างรถฝั่งคนขับเพื่อข่มขู่รถเก๋งสีขาวที่ขับอยู่ด้านหน้า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุมีการนำคลิปดังกล่าวเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย และมีการแชร์ออกไปอย่างแพร่หลายจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมของคนขับรถสี่ล้อแดงที่นำอาวุธออกมาข่มขู่คุกคามบุคคลอื่นบนท้องถนน

ล่าสุดเช้าวันนี้ ( 19 กุมภาพันธ์) นายสน นิยมรัตน์ อายุ 69 ปี โชเฟอร์สี่ล้อแดง ทะเบียน 30-5568 เชียงใหม่ เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยมีนายบุญเนียม บุญทา ประธานสหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด เดินทางมาด้วย

นายสน กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนเองรับผู้โดยสารหญิงมาจากย่านสันติธรรม และเลี้ยวขวาบริเวณสี่แยกแจ่งหัวริน จากนั้นได้ขับเพื่อจะชิดไปยังเลนขวาเพื่อเตรียมยูเทิร์นเข้าถนนคูเมืองด้านใน แต่จู่ๆก็มีรถเก๋งสีขวาขับแซงปาดหน้าขึ้นมาและขับปาดหน้ารถของตนเอง จึงเกิดเรื่องขึ้นตามคลิปที่ปรากฎ

นายสน ยอมรับว่า ได้ถืออาวุธมีดที่วางไว้ใต้เบาะรถออกมาข่มขู่คนขับรถเก๋งสีขาวจริง เนื่องจากถูกขับรถปาดหน้าก่อน และรถเก๋งสีขาวยังพยายามเบรกถึง 3 ครั้ง จนตนเองเกือบชนท้ายรถเก๋งคันดังกล่าว จึงทำให้เกิดความโมโห ระงับอารมณ์ไม่ได้เพราะถูกยั่วยุ จึงได้ชักอาวุธมีดขึ้นมาข่มขู่ เพราะเชื่อว่าคนขับรถเก๋งสีขาวเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง มิฉะนั้นจะไม่กล้าเบรกถึง 3 ครั้ง หากตนเองเบรกไม่ทันก็คงจะชนท้ายอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามนายสน ได้ยกมือขอโทษที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม พร้อมยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

ด้าน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า อยากให้โชเฟอร์สี่ล้อแดงใจเย็นและมีความอดทนอดกลั้นมากกว่านี้ เนื่องจาก จ.เชียงใหม่ เป็นเมืองท่องเที่ยว หากคนขับรถสาธารณะมีพฤติกรรมเช่นนี้จะส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะรถสี่ล้อแดงซึ่งมีมากกว่า 2 พันคัน

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหากับนายสน "พกอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร" และ "ขับปาดหน้ารถผู้อื่น โดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน" ก่อนจะควบคุมตัวไปดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับในชั้นศาลต่อไป

ด้านผู้บริหาร สหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด กล่าวว่า ได้กำชับสมาชิกทุกคนให้มีสติ และตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบกระทั่งกับผู้ใช้รถใช้ถนน เพราะทุกครั้งที่เกิดกรณีขึ้นก็มีผลถึงภาพลักษณ์ของสี่ล้อแดงและเมืองเชียงใหม่ด้วย