อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมกับ บริษัท ลีลานวดไท ท่าแพ จำกัด ทำ MOU เปิดศูนย์ฝึกทักษะการนวดไทย เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ต้องขัง ก่อนปล่อย ได้มีความรู้นำไปประกอบอาชีพหลังพ้นโทษ
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 08.00 น. พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 กรมราชทัณฑ์ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย และพิธีเปิดศูนย์ฝึกทักษะการนวดไทย Give and Gain in wall ภายใต้แนวคิด “พลังการให้จากสังคมที่ยิ่งใหญ่สู่การยอมรับและให้โอกาสแก่ผู้ต้องขังที่ยั่งยืน” ระหว่างกรมราชทัณฑ์กับบริษัท ลีลานวดไท ท่าแพ จำกัด โดยมีนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นางบุษบา ศักรางกูร ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ และนางเนาวรัตน์ ธนะศรีสุธารัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ลีลานวดไท ท่าแพ จำกัด ร่วมลงนามในพิธีดังกล่าว ณ ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่
การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ มีผู้ต้องขังเข้าร่วมโครงการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย (เรือนจำโครงสร้างเบา) รุ่นที่ 1 จำนวน 200 คน ผู้ต้องขังที่เข้าร่วมโครงการเตรียมพร้อมก่อนปล่อยจะได้รับ การพัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจ เสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม และเตรียมความพร้อมทางด้านอาชีพ ยกระดับมาตรฐานการฝึกวิชาชีพ จำนวน 15 สาขาวิชาชีพ และวิชาชีพการนวดแผนไทยเป็นวิชาชีพที่ผู้ต้องขังจำนวนมากมีความสนใจที่จะนำความรู้ไปประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ
ซึ่งทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากบริษัทลีลานวดไท ท่าแพ จำกัด โดยได้จัดส่งวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดำเนินการ ฝึกวิชาชีพนวดแผนไทยให้แก่ผู้ต้องขัง โดยศูนย์ฝึกทักษะการนวดไทย Give and Gain in wall หรือศูนย์ “ GG ”จะคัดเลือกผู้ต้องขังที่ผ่านการอบรมนวดแผนไทยไปแล้วในหลักสูตรของกระทรวงสาธารณสุข 150 ชั่วโมง และได้รับการอบรมการนวดแผนไทย แบบเรือนพธำมรงค์ ที่เป็นเอกลักษณ์ของทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ อีกเป็นเวลา 300 ชั่วโมง และได้คัดเลือกผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์จ่ายออกทำงานภายนอกเรือนจำไปฝึกทักษะวิชาชีพนวดแผนไทยที่เรือนจำชั่วคราวกลางเวียง เข้าฝึกทักษะวิชาชีพนวดแผนไทยในศูนย์ GG เพื่อให้ผู้ต้องขังได้รับประสบการณ์ตรงจากลูกค้าที่มาใช้บริการ และมีรายได้จากเงินรางวัลปันผล ซึ่งเปิดโอกาสให้สังคมได้รับรู้ และเกิดการยอมรับในความรู้ความชำนาญทักษะการนวดแผนไทยของผู้ต้องขัง เป็นการลดช่องว่างระหว่างผู้ต้องขังกับสังคม
และเมื่อพ้นโทษผู้ต้องขังและสังคมจะสามารถอยู่ร่วมกันได้ พร้อมทั้งลดการถูกปฏิเสธจากสังคมนำไปสู่การป้องกันการกระทำผิดซ้ำ ปัจจุบันมีผู้พ้นโทษเข้าทำงานกับบริษัทลีลานวดไทท่าแพ จำกัด แล้วจำนวน 86 ราย มีรายได้ระหว่าง 20,000 - 32,000 บาท ต่อเดือน นอกจากนี้ยังได้จัดบูทรับสมัครผู้ที่จะพ้นโทษเข้าทำงานกับบริษัทลีลานวดไท ท่าแพ จำกัด อีกด้วย
พันตำรวจเอกณรัชต์ฯ กล่าวต่อไปว่า กรมราชทัณฑ์ได้กำหนดนโยบาย “4 s” ซึ่งได้แก่ S Smart , S Strong , S Service และ S สุดท้ายคือ success ความสำเร็จ คือการคืนคนดีสู่สังคม ซึ่งบทบาทภารกิจของกรมราชทัณฑ์ที่ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในระหว่างต้องโทษ จะเปิดโอกาสให้สังคมภายนอกได้เข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ต้องขัง เพื่อทำให้เกิดการยอมรับและภาพลักษณ์ที่ดีต่อผู้ต้องขัง ให้ผู้ต้องขังมีความรู้ในการนำมาใช้ประกอบอาชีพ ก่อนกลับไปสู่สังคมภายหลังพ้นโทษได้