เชียงใหม่ ชาวบ้านแห่โลงศพหนุ่มลาหู่ จี้ย้ายชุดวิสามัญ

ชาวบ้านห้วยไคร้ใหม่ ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่กว่า 100 คน แห่โลงศพของ นายจะจือ จะอ่อ อายุ 26 ปี ชาวเขาเผาลาหู่ ที่ถูกตำรวจ สภ.เวียงแหง วิสามัญ เมื่อช่วงเย็น วันที่ 23 กรกฎาคม มายังที่ว่าการอำเภอเวียงแหง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม พร้อมยื่นหนังสือต่อ นายจีระชาติ ซื่อตระกูล นายอำเภอเวียงแหง

โดยข้อเรียกร้องของชาวบ้านต้องการย้ายตำรวจที่วิสามัญ ออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง และให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยใช้หน่วยงานและองค์กรที่มีความเป็นกลางและเชื่อถือได้ รวมทั้งให้ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิต

ซึ่งการแห่โลงศพประท้วงครั้งนี้ มีแม่ ภรรยา และลูกๆ ร่วมทั้งญาติของนายจะจือ เดินทางมาด้วย ครอบครัวยังอยู่ในอาการโศกเศร้าและเสียใจ โดยเฉพาะแม่และภรรยาที่ร้องไห้ตลอดเวลา โดยนายอำเภอเวียงแหง ออกมารับเรื่อง และเปิดห้องประชุมเพื่อหารือกับแกนนำชาวบ้าน

ด้าน นายสุรพล ยาป่า แกนนำชาวบ้านห้วยไคร้ เผยว่า เนื่องจากวันเกิดเหตุผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า ผู้ตายไม่ได้มีอาวุธปืนตามที่ตำรวจกล่าวอ้าง โดยระหว่างทางผู้ตายได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนกลับบ้าน หลังจากเก็บพริกที่สวน แต่จู่ๆตำรวจก็กระโดดมาขวางรถและแสดงตัวเข้าจับกุม คนขี่รถจึงรีบวิ่งหนี ส่วน นายจะจือ ถูกตำรวจยิงจนเสียชีวิตโดยเพื่อนที่หนีไปได้ ไปตามญาติมายังจุดเกิดเหตุ แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึง กลับพบว่าจุดที่นายจะจือนอนเสียชีวิตเป็นคนละจุดกับที่เกิดเหตุครั้งแรก และยังพบอาวุธปืนวางอยู่ใกล้ศพ

ขณะที่ พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ประชุมร่วม ผู้กำกับการ สภ.เวียงแห่ โดย พล.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า วันนี้ได้ดูคลิปวิดีโอจากมุมต่างๆที่อยู่ในเหตุการณ์ หลังจากนี้จะหารือกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมจะตั้งคณะกรรมการกลาง เพื่อหาขอสรุปภายใน 7 วัน

ส่วนข้อเรียกร้องของชาวบ้านที่จะให้ย้ายตำรวจทั้ง 6 นาย ออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง เบื้องต้นได้ให้ตำรวจลาพักร้อนไปก่อน เพื่อลดแรงกดดันในพื้นที่ ส่วนกรณีที่มีกลุ่มชาวบ้านรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบมีประมาณ 10 ราย จะทำการสอบปากคำพยาน และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับชาวบ้านเช่นกัน

และ พล.ต.ท.มนตรี ยืนยันว่า อาวุธปืนของกลางที่ตกในจุดเกิดเหตุเป็นของผู้เสียชีวิตจริง เพราะเป็นไปไม่ได้ที่หลังเกิดเหตุตำรวจจะนำปืนมาวางไว้ทัน และไม่มีการเคลื่อนย้ายศพตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พยายามกันพื้นที่ เพื่อรอให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์มาตรวจสอบ ขณะที่บาดแผลจากกระสุนปืน ก็ไม่ได้ยิงเข้าที่ด้านหลังของนายจะจือ ผู้ตาย เพียงจุดเดียว แต่ยังมีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณด้านหน้าและอีกหลายจุด