ผลสอบอนาจาร "เด็กหญิงป.1" เป็นความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษ เป็นเพียงการเล่นกันเกินเลย

(28 พ.ค.61)  ความคืบหน้ากรณีที่มีผู้ปกครองเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์  ว่ามีกลุ่ม ด.ช. ชั้น ป.1  ป.3 และ ป.5  ร่วมกันพยายามล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.ชั้น ป.1 ริมสระน้ำในหมู่บ้าน  เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ล่าสุด พ.ต.อ. สุชาติ ละลี ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์   ได้ออกมาเปิดเผยว่า คดีดังกล่าวมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง  แต่เป็นการเล่นกันของเด็กซึ่งก็ไม่ได้รุนแรงตามที่เป็นข่าว   ซึ่งจากผลการสอบปากคำพบว่ามีเด็กที่เล่นน้ำอยู่ด้วยกันในวันเกิดเหตุทั้งหมด 5 คน   เป็นเด็กผู้ชาย 4 คน คือ ชั้นอนุบาล 2 , ป.1 , ป.3 ,ป.5  และ ด.ญ.ชั้น ป.1 ที่เป็นผู้เสียหาย   ได้มีการถอดเสื้อผ้าเล่นน้ำกันตามประสาเด็ก จากนั้นมี ด.ช.ชั้น ป.3 ก็พูดในลักษณะหยอกล้อกันเล่นว่า จะให้เงิน  35 บาท  หาก ด.ญ.ชั้น ป.1  และ ด.ช.ชั้น อนุบาล 2 ซึ่งก็เป็นหลานของยายผู้เสียหายเองทั้งสอง   ยอมทำเลียนแบบตามคลิปที่ดูในโทรศัพท์ให้ดู จากนั้นทั้งสองก็ทำตามจริง  โดยที่ ด.ช.อีก 3 คนก็ยืนดู แต่ไม่ได้ร่วมกระทำด้วย   ซึ่งในทางกฎหมายคดีนี้ถือเป็นคดีทางอาญา ที่ต้องดำเนินการตามคดีทั่วไป แต่มีกฎหมายเฉพาะในเรื่องการสอบสวน และการพิจารณาคดีความ  เพราะผู้กระทำผิดเป็นเด็ก

ซึ่งขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเด็กทั้งหมด  ผ่านนักสังคมสงเคราะห์ และนักจิตวิทยาแล้วการสอบสวน เด็กทั้งหมดให้การสอดคล้องกันว่าเด็กชายชั้น ป.3 พูดหยอกล้อ ว่าจ้างให้เด็กชายชั้นอนุบาลสองซึ่งเป็นหลานของยายผู้เสียหายเอง เป็นผู้กระทำอนาจารเด็กหญิงชั้น ป.1 และมีเด็กชายชั้น ป.5 และ ป.3 อีกคนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย  ส่วนกระแสข่าวเรื่องการข่มขืนหรือพยายามฆ่าเด็กหญิงด้วยกดหัวลงน้ำก่อนหน้านี้ ในทางสอบสวนไม่พบว่ามีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น เบื้องต้นตำรวจ เตรียมตั้งข้อหาอนาจาร กับกลุ่มเด็กชาย ส่วนข้อหาล่วงละเมิด จะต้องรอผลตรวจจากโรงพยาบาลยืนยันอีกครั้งว่ามีการล่วงละเมิดหรือไม่

ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกระสัง ย้ำว่าคดีนี้เป็นคดีที่มีผู้กระทำและผู้ถูกกระทำเป็นเด็กทั้งคู่ แม้จะมีความผิดเกิดขึ้น แต่ทางกฎหมายเด็กจะไม่ต้องรับโทษและศาลจะเป็นผู้พิจารณาชี้ขาดถึงแนวทางการดูแลและเยียวยาเด็กทั้งหมด

ด้านนายอรรถพล อนันตวรสกุล อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เมื่อต้นปี ตนมีการศึกษาเรื่องสถิติการฟ้องร้องการล่วงละเมิดทางเพศ ตลอด 5 ปีในระดับนานาชาติ พบว่า เด็กหญิง 1 ใน 4 และเด็กชาย 1 ใน 6 เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ ในปี 2560 สื่อไทยตีแผ่ข่าวดังกล่าว 53 ราย เป็นข่าวแค่ 5% ซึ่งตัวเลขจริงอาจมากกว่านั้น เหมือนเป็นปัญหาซุกใต้พรม

[caption id="attachment_271585" align="aligncenter" width="900"] นายอรรถพล อนันตวรสกุล อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[/caption]

นักวิชาการด้านการศึกษา จุฬาฯ กล่าวอีกว่า เรื่องเพศในโรงเรียนอย่ามองเป็นแค่การหยอกล้อ ยอมรับกันได้ แม้การถูกเนื้อต้องตัว นัดพบระหว่างครูกับนักเรียน เด็กกับเด็ก มาถึงการมีพื้นที่ออนไลน์ ยุคนี้ไม่ใช่แค่เด็กผู้หญิงถูกกระทำ ผู้ชายก็ล่วงละเมิดไม่น้อย รวมถึงเด็กกลุ่มความหลากหลายทางเพศ ทั้งหมดเป็นความท้าทายที่ไม่ใช่เพียงการแก้กฎหมาย แต่ต้องสร้างค่านิยมวัฒนธรรมในโรงเรียนใหม่ ไม่เช่นนั้นก็น่าห่วงว่าเด็กที่ถูกกระทำจะกลายเป็นลูกโซ่ส่งต่อการถูกกระทำไปยังคนใกล้ตัว หรือคนอื่นๆ เมื่อเกิดปัญหา เด็กไม่สามารถพึ่งครู โรงเรียน รัฐได้ ทำให้เด็กตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้น