ยายลอนแผ่เมตตาให้อดีตเณรคำ อย่ามีเวรกรรมกันอีกเลย

บรรยากาศภายในวัดสามัคคิยาราม หรือวัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวัดที่อดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก หรือ นายวิรพล สุขผล เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา ตอนนี้อยู่ในสภาพเงียบเหงา หลังอดีตหลวงปู่เณรคำ ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุกคดีฉ้อโกงประชาชน-ฟอกเงิน-ผิดพ.ร.บ.คอมพ์ รวม 114 ปี

โดยพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกยังคงตั้งตระหง่าน บริเวณที่เคยติดตั้งรูปขนาดใหญ่ของอดีตหลวงปู่เณรคำ ถูกปลดลงแล้ว รวมทั้งภายในศาลาสามัคคีธรรม รูปขนาดใหญ่ของอดีตหลวงปู่เณรคำก็ถูกปลดลงเช่นกัน และมีการนำเอารูปภาพของเจ้าอาวาสวัดสามัคคิยารามคนปัจจุบันไปติดตั้งไว้แทน มีเพียงกุฏิจำพรรษาของหลวงปู่สมบูรณ์ ขันติโก อาจารย์ของอดีตหลวงปู่เณรคำ ยังคงมีรูปภาพขนาดเล็กของอดีตหลวงปู่เณรคำติดตั้งไว้ฝาผนัง

พระลูกวัดรูปหนึ่ง ยอมรับว่า แม้ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของอดีตหลวงปู่เณรคำ แต่ตกใจที่ทราบข่าวการถูกจำคุก 114 ปี ที่ผ่านมาทราบแต่คุณงามความดีของอดีตหลวงปู่เณรคำที่ได้สร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา สำหรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นไปตามที่พระพุทธองค์ ทรงตรัสไว้ว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม  กรรมใดใครก่อ ก็ต้องเป็นไปตามกรรมนั้น

เช่นเดียวกับ ยายลอน มนัส อายุ 72 ปี เจ้าของที่ดินวัดป่าขันติธรรม กล่าวระหว่างเดินทางไปพบแพทย์โรคเบาหวานและโรคความดันว่า ไม่รู้สึกอะไรที่อดีตเณรคำ ถูกตัดสินจำคุกกว่าร้อยปี เพราะคิดว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม ตอนนี้ได้สวดมนต์แผ่เมตตาให้อดีตหลวงปู่เณรคำทุกคืน เพื่อขออย่าให้มีเวรมีกรรมต่อกันอีกเลย.