svasdssvasds

บึงกาฬ ร้านค้าถูกหลอกขายสินค้าราคาถูก แต่ลงของไม่ครบรายการ

บึงกาฬ ร้านค้าถูกหลอกขายสินค้าราคาถูก แต่ลงของไม่ครบรายการ

เจ้าของร้านขายของชำตามต่างจังหวัด ต้องฟังให้ดีๆ เพราะตอนนี้เเก๊งค์หลอกขายสินค้าราคาส่ง กำลังออกอาละวาด หลอกขายของราคาถูกแต่ได้ของไม่ครบ ล่าสุด เจ้าของร้าน ที่ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ถูกหลอกให้ซื้อของเป็นเงินกว่า 10,000 บาท แต่เมื่อเช็กสินค้าถึงกับช็อค เพราะมีมูลค่าเพียง 2,200 บาท เท่านั้น

วานนี้ (4 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบึงกาฬ ได้เดินทางไปตรวจสอบร้านขายของชำชื่อ “ร้านน้องเจน” หลังตลาดสดบ้านชัยพร ต.ชัยพร หลังได้รับแจ้งจาก นาย ประเสริฐ รอดคำทุย และ นางสายใจ เนืองนิตย์ สองสามีภรรยาเจ้าของร้านขายของชำ ว่ามี ถูกหลอกลวงให้ซื้อสินค้าขายส่งในราคาถูก แต่ได้ของไม่ครบตามที่สั่งซื้อ

เจ้าของร้านได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดให้เจ้าหน้าที่ดู พร้อมเล่าว่า เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงที่แล้ว มีรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ 4 สีขาว ทะเบียน กง 7031 พระนครศรีอยุธยา เข้ามาจอดที่หน้าร้าน พร้อมกับชายคนขับรูปร่างสันทัด สูงประมาณ 170 เซนติเมตร อายุประมาณ 30 ปี เดินเข้ามาทักทาย

โดยอ้างว่าต้องการจะเปิดบิลใหม่หาลูกค้าใหม่ เพราะมีคลังสินค้าเปิดใหม่อยู่ที่ อ.เซกา จ.บึงกาฬ และอ้างว่าสินค้าของตนที่เอามานั้นมีราคาถูกกว่าห้าง สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทุกวันและเครดิตได้ด้วย แต่มีข้อแม้คือในครั้งแรกจะต้องจ่ายเป็นเงินสด เมื่อเห็นว่ามีสินค้าราคาถูก จึงตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าประเภทของกินของใช้ คิดเป็นเงินประมาณ 10,400 บาท จากนั้นคนร้ายก็ช่วยกันขนของลงมาจากรถเอามาวางไว้ในร้าน เมื่อขนเสร็จก็ขับรถออกไปทันที

ต่อมาจึงได้ไปตรวจเช็คสินค้าที่ซื้อเอาไว้ แต่กลับพบว่าของมีราคาเพียง 2,200 บาทเท่านั้น จึงได้โทรศัพท์ไปตามนามบัตรที่คนร้ายให้ไว้ ก็ได้รับคำตอบว่า กำลังติดลูกค้าร้านใกล้ๆ เสร็จแล้วจะวนกลับมาหา แต่ก็เงียบหายไป ตัวเองจึงได้โทรศัพท์ไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่สามารถติดต่อได้เพราะปิดเครื่อง ทำให้มั่นใจว่าถูกหลอกเข้าแล้ว จึงได้โทรแจ้งตำรวจ 191

ด้าน พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า คนร้ายกลุ่มนี้ได้เข้ามาหลอกลวงขายสินค้าในเขต จ.บึงกาฬ 2-3 วันผ่านมา โดยใช้รถปิกอัพต่อทึบบรรทุกสินค้า แต่ละคันจะมากัน 3-4 คน ซึ่งก่อนนี้จะเข้าได้ไปหลอกขายสินค้าในเขต อ.โซ่พิสัย มาแล้ว โดยใช้รถยี่ห้ออีซูซุ แค็ป สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งร้านแรกเสียเงินไปจำนวน 28,000 บาท และร้านที่ 2 เสียเงินไป 17,000 บาท ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนออกติดตามหาข่าวเพื่อจับกุมแล้ว

related