svasdssvasds

เจออีกรายโกงเงินคนพิการ ถูกอมเงินค่าจ้าง 2 ปีวงเงิน 2 แสนไม่รู้ตัว [คลิป]

เจออีกรายโกงเงินคนพิการ ถูกอมเงินค่าจ้าง 2 ปีวงเงิน 2 แสนไม่รู้ตัว [คลิป]

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

จากกรณีตัวแทนผู้ปกครองคนพิการใน จ.กาฬสินธุ์ ร้องเรียนเรื่องเงินค่าจ้างผู้ดูแลคนพิการ ในโครงการจ้างเหมาบริการตามมาตรา 35 คนละกว่า 100,000 บาทต่อปี หรือเดือนละเกือบ 10,000 บาท ถูกชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จ.กาฬสินธุ์ ยักยอกเงินด้วยวิธีให้เปิดบัญชีทำงาน จากนั้นเก็บบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีก่อนจ่ายให้รายเดือนแค่คนละ 2,000-4,000 บาท ขณะที่มีการโอนเงินเข้าจริงเกือบหมื่นบาท เชื่อมีขบวนการสูบเลือดคนพิการแฝงในระดับชมรมถึงระดับสูง เรียกร้องเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ขณะที่ประธานชมรมฯ ยืนยันความโปร่งใส จ่ายค่าจ้างให้ตามข้อตกลงตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

นางราตรี คามุลทา ผู้ดูแล น.ส.มาลา สาแม หรือน้องบีม อายุ 15 ปี หลานสาว มีความพิการทางสติปัญญา ซึ่งนางราตรี เป็นหนึ่งในผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 เป็นปีที่ 2 กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2560 ได้รับการชักชวนจากเครือข่ายชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ ให้นำหลานพิการสมัครเข้ารมชมฯ โดยต้องนำหลานเข้ารับการบำบัดที่ชมรมฯ สัปดาห์ละ 3 วัน คือวันจันทร์ วันอังคาร และวันพุธ ซึ่งจะได้ค่าจ้างสัปดาห์ละ 1,000 บาท หากขาดวันใดวันหนึ่งก็จะถูกหักเหลือ 600 บาท ซึ่งตนก็ได้สมัครและมอบสมุดเงินฝากพร้อมบัตรเอทีเอ็ม ไว้ที่ชมรมตามที่ประธานชมรมบอก ปีที่ผ่านมาก็จะพาน้องบีมนั่งรถรับจ้างไปเข้าชมรม เพราะปกติอยู่บ้านเลี้ยงหลานพิการคนเดียว ส่วนพ่อแม่น้องบีมและลูกคนอื่นๆ ไปทำงานต่างจังหวัด การเลี้ยงดูน้องบีมจึงตกเป็นภาระของตน และเหตุที่ตัดสินใจไปสมัครเพราะอยากให้น้องบีมได้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังจะได้เงินค่าจ้างเพื่อเป็นค่านม และของใช้ส่วนตัวน้องบีมอีกด้วย เฉลี่ยปีที่ผ่านมาได้รับค่าจ้างเป็นเงินสดเดือนละ 4,000 บาท หรือได้รับจริงตลอดปีไม่ถึง 48,000 บาท

นางราตรียอมรับว่า ที่ผ่านมาไม่เคยรู้ตัวเลยว่าได้เซ็นสัญญาเป็นลูกจ้างหรือผู้ดูแลคนพิการ ในโครงการจ้างเหมาผู้ดูแลคนพิการ ตามมาตรา 35 ซึ่งจะได้ค่าจ้าง 109,500 บาทต่อปีหรือเดือนละ 9,125 บาท ที่รู้คือพอสิ้นเดือนก็ได้รับเงิน 4,000 บาท หรือหากสัปดาห์ใดไปไม่ครบ 3 วันก็จะถูกหัก 600 บาท กระทั่งมีข่าวโกงเงินคนจนในหลายจังหวัด และนางฐานิดา ไปร้องเรียนกับเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ซึ่งโยงมาถึงชมรมผู้ปกครองคนพิการ จ.กาฬสินธุ์ ตนได้ยินข่าวรู้สึกไม่สบายใจ ในระยะหลังจึงไม่พาน้องบีมไปเข้าชมรมอีก

“ล่าสุด เมื่อไม่พาหลานไปเข้าชมรม ประธานชมรมฯก็เอารถมารับตนกับน้องบีมถึงที่บ้าน แต่ตนก็ไม่ยอมไป กระทั่งเมื่อตอนเย็นวันที่ 5 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. ประธานชมรมได้มาหาตนที่บ้าน พร้อมนำเอกสารมาด้วยแผ่นหนึ่ง พร้อมบอกให้ตนเซ็นรับรองในเอกสารแผ่นนั้น โดยบอกว่าเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2561 ตนพาน้องบีมไปรับยา ช่วยเซ็นรับรองให้หน่อย ตนเป็นคนแก่ หูตา ไม่ดี อ่านหนังสือไม่ออก ก็ยอมเซ็นให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ในที่สุดก็พึ่งรู้ว่ามีพฤติกรรมไม่โปร่งใส หลอกให้เซ็นรับรองสัญญารับข้อตกลงให้หักค่าแรงเหลือเดือนละ 4,000 บาท ซึ่งเป็นการเซ็นเอกสารที่ประธานชมรมแต่งขึ้นมาใหม่ หลังมีข่าวนางฐานิดาไปร้องเรียน” นางราตรีกล่าว

ด้านนางฐานิดา อนุอัน ผู้ดูแลนางสาวอทิตยา อนุอัน หรือน้องอี๊ฟ ลูกสาววัย 17 ปี พิการทางสติปัญญา ผู้ร้องเรียนกล่าวว่า จากการตรวจดูเอกสารฉบับที่นางราตรีเซ็น พบพิรุธชัดเจน

“พิรุธที่เห็น ขัดต่อคำตอบของประธานชมรม ว่ามีการทำความเข้าใจก่อนทำสัญญา ซึ่งในช่วงนั้นน่าจะเป็นราวเดือนมกราคม 2561 แต่วันที่ที่ระบุในหนังสือฉบับที่นำมาให้นางราตรีเซ็น กลับลงวันที่ 20 กันยายน 2561 หลังจากที่มีหลักฐานสัญญาที่ระบุไว้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 นานถึง 8 เดือน และนอกจากนี้ ชื่อบุคคลที่ลงชื่อรับรองในชุดเดียวกับนางราตรี ซึ่งหมายถึงผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรา 35 ตามโควตาของบริษัทดังกล่าวปีละ 10 คน กลับไม่มีชื่อของตนคือนางฐานิดา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับจ้างนั้น แต่กลับมีชื่อคนอื่นแทนที่ แล้วอย่างนี้จะเกิดความโปร่งใสได้อย่างไร จึงจะเดินหน้าเรียกร้องภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ เพื่อคืนสิทธิ์และความชอบธรรมให้ผู้ดูแลคนพิการ ที่เงินค่าจ้างตามโครงการจ้างเหมาบริการดูแลคนพิการ ตามมาตรา 35 ถูกยักยอกไป 2 ปี ว่าไปอยู่ในกระเป๋าของใคร”

related