ทีมสอบสวนชุดใหม่ เร่งสอบปากคำพยาน คดีตำรวจขับกระบะชนรถรีเฟอร์ จนพยาบาลสาวเสียชีวิต ผ่านไปแล้ว 27 ปาก พร้อมส่งพิสูจน์หลักฐาน ตรวจที่เกิดเหตุซ้ำอีกรอบ หาหลักฐานเพิ่ม คาดสรุปสำนวนส่งอัยการสัปดาห์นี้
ความคืบหน้ากรณี ร.ต.อ.เดชา เปรียบสม รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสียหลักข้ามเลนพุ่งชนรถพยาบาลของ รพ.ประโคนชัย บนถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จนส่งผลให้ น.ส.สุดารัตน์ เชื่อมาก อายุ 25 ปี พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนเขาคอก ที่นั่งดูแลหญิงตั้งครรภ์ภายในรถเสียชีวิต , น.ส.จรวยพร ปาประโคน พยาบาลวิชาชีพ รพ.ประโคนชัย บาดเจ็บสาหัส ทั้งยังมีคนขับรถรีเฟอร์ หญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อ และญาติ ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุด พนักงานสอบสวนที่ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด แต่งตั้งขึ้นใหม่จำนวน 6 คนแทนพนักงานสอบสวนคนเดิม ได้เร่งสอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบไปด้วยผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย ในวันที่ ร.ต.อ.เดชา อยู่ที่โรงพัก พยาบาล รพ.ประโคนชัย และโรงพยาบาลบุรีรัมย์ รวมแล้ว 27 ปาก ขณะนี้เหลือเพียงสอบปากคำเจ้าหน้าที่อีกส่วน และเยาวชนที่ได้รับบาดเจ็บที่นั่งมาในรถรีเฟอร์ที่ถูกชนซึ่งต้องร่วมกับสหวิชาชีพในการสอบ พร้อมกันนี้ยังได้ให้พนักงานสอบสวนและพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบที่เกิดเหตุซ้ำอีกรอบ เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการได้ภายในสัปดาห์นี้
พ.ต.อ.สุรชัย สังขพัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ซึ่งกำกับดูแลคดีดังกล่าวด้วยตัวเอง บอกว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะการสอบปากคำพยานได้ดำเนินการสอบไปแล้วถึง 27 ปาก ซึ่งคาดว่าจะสรุปสำนวนส่งอัยการได้ภายในสัปดาห์นี้ พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาไม่มีบิดเบือนหรือช่วยเหลือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ส่วนที่มีคำสั่งย้าย ร.ต.อ.เดชา ออกนอกพื้นที่นั้น ก็เพื่อความสบายใจและความเป็นธรรมกับคู่กรณี
นายพลกฤต เนาว์ประโคน ทนายความฝั่งผู้เสียหายพยาบาลที่เสียชีวิต ระบุว่า จากการติดตามการทำคดีของพนักงานสอบสวนชุดใหม่ ก็มีความพึงพอใจที่ดำเนินการสอบปากคำพยานและผู้เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว และเห็นว่าจะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ก็ถือว่าค่อนข้างเร็วหากเทียบกับคดีอื่นๆ ส่วนประเด็นที่ ร.ต.อ.คู่กรณี ปฏิเสธไม่ตรวจแอลกอฮอล์และเจาะเลือดนั้น ก็ไม่ได้หนักใจเพราะมีพยานเห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุหลายคน
ด้านนายฉัตรชัย แสวงตน พี่เขยของ น.ส.สุดารัตน์ พยาบาลวิชาชีพที่เสียชีวิต บอกว่า หลังจากมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนชุดใหม่ และมีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายปาก รู้สึกมีความเชื่อมั่นในการทำคดีของทางตำรวจมากขึ้น แต่ยังมีความกังวลกรณีที่ ร.ต.อ. คู่กรณีไม่ยอมตรวจวัดแอลกอฮอล์ในวันเกิดเหตุ จะทำให้มีผลต่อหลักฐานที่จะต่อสู้ในคดีหรือไม่ จึงอยากฝากให้ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวและผู้เสียชีวิตด้วย
สำหรับ ร.ต.อ.เดชา พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 3 ข้อหา คือ “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย,ขับรถโดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และขับรถขณะมึนเมาสุรา” แต่ ร.ต.อ.เดชา ยังคงปฏิเสธข้อหา ขับรถขณะมึนเมา