“น้องแบม” ขอบคุณ “ลุงตู่” ได้ที่นั่งบรรจุข้าราชการสังกัด ปปท.

(2 พ.ย.2561) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในหน่วยงานภาครัฐ หรือ ปปท.เขต 4 ขอนแก่น นายทองสุข  ณ พล รักษาการ ผอ.ปปท.เขต 4 เข้ารับการรายงานตัวจาก น.ส.ปณิดา  ยศปัญญา อดีตนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือ มมส. ที่ได้ออกมาเปิดโปงขบวนการการทุจริตโครงการเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. จนพบมูลความผิดและมีการขยายการตรวจสอบการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งไปทั่วทั้งประเทศ

โดย น.ส.ปณิดา  ยศปัญญา หรือ น้องแบม นำเอกสารซึ่ง สำนักงาน ปปท.กลาง ได้ทำเรื่องส่งตัวมาช่วยราชการที่ ปปท.เขต 4 โดยบรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่ง นักวิชาการยุติธรรมระดับปฎิบัติการ ประจำสำนักงาน ปปท.เขต 7 จ.นครปฐม น้องแบมเดินทางมาด้วยความตื่นเต้นและมารายงานตัวตั้งแต่เวลา 07.30 น. ก่อนที่สำนักงานจะเปิดทำการ ซึ่งได้รับหน้าที่นักวิชาการยุติธรรม ประจำกลุ่มงานป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น ประจำ ปปท.เขต 4 รับผิดชอบพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน

น้องแบม บอกว่า ขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์  จันโอชา นายกรัฐมนตรี.นายวิษณุ  เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ,พ.ท.กรทิพย์  ดาโรจน์  เลขาธิการ ปปท. รวมทั้งผู้ใหญ่ทุกคนที่ทำให้ฝันเป็นจริง จากนี้ไปจะตั้งใจทำงานในหน้าที่ที่ได้รับมอหมายอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถเพื่อประโยชน์ให้กับประเทศ ชุมชน และสังคมต่อไป

ขณะที่ นายทองสุข ณ พล รักษาการ ผอ.ปปท.เขต 4 ขอนแก่น กล่าวว่า น้องแบม ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นกรณีพิเศษ จากการทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ โดยได้การรายงานตัว ต่อ สำนักงานเลขาธิการ ปปท.กลาง เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวานที่ผ่านมา (1 พ.ย.) ก่อนที่ ปปท.กลาง จะมีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ ปปท.เขต  ตามการร้องขอ จากนี้ไปน้องแบมจะทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ปปท.ในฐานะข้าราชการ ที่ต้องเข้าใจการทำงานในภาพรวม รวมทั้งการอบรมในหลักสูตรต่างๆที่ ปปท.กำหนด

"สำหรับคดีการตรวจสอบและการสืบสวนสอบสวนการทุจริตโครงการเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ของ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กระทรวง พม. นั้นขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการสอบปากคำพยาน ซึ่งทีมสืบสวนสอบสวนที่ ปปท.กลาง และ ปปท.เขต 4 ได้แต่งตั้งนั้นยังคงลงพื้นที่สอบปากคำพยานทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 80 โดยในช่วงต้นเดือน ธ.ค.จะมีการเรียกตัวผู้ต้องหาในคดีทั้งหมด 6 คนมารับทราบข้อกล่าวหา ตามที่พนักงานสอบสวน ปปท.แจ้งไว้ คือข้อหาปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ,ปลอมแปลงเอกสารของทางราชการและเบียดบังทรัพย์"