svasdssvasds

สู้เพื่อลูก "พ่อแม่" ควานหาวงจรปิด แฉตำรวจไล่กวดจยย.ก่อนชนกระบะดับ [คลิป]

สู้เพื่อลูก "พ่อแม่" ควานหาวงจรปิด แฉตำรวจไล่กวดจยย.ก่อนชนกระบะดับ [คลิป]

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี นายเสฎฐสิฏฐ์ สมบูรณ์ อายุ 43 ปี ข้าราชการครู รร.หนองหานวิทยา อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พร้อมภรรยา เข้าร้องขอความเป็นธรรมให้ นายณัฐวัฒน์ หรือ น้องฟุตบอล สมบูรณ์ อายุ 17 ปี บุตรชาย ที่ประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยายนต์ชนกับรถกระบะเสียชีวิต บริเวณสี่แยกหน้า สภ.เมืองอุดรธานี ถ.ศรีสุข ตัด ถ.นเรศวร เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อเวลา 01.10 น. ของวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา 

นายเสฎฐสิฏฐ์ สมบูรณ์ กล่าวว่า น้องฟุตบอลเป็นบุตรชายคนเดียว เรียนอยู่ชั้น ม.5 รร.อุดรพิทยานุกูล เป็นนักกีฬาฟุตบอล ปกติจะเดินทางไปกลับบ้าน อ.หนองหาน ทุกวัน แต่เพราะต้องเก็บตัวแข่งขัน จึงมาเช่าอยู่หอพักได้เพียง 2 เดือน วันเกิดเหตุเสร็จจากซ้อมกีฬา ได้ขี่รถ จยย.เพื่อนไปส่งเพื่อนผู้หญิง 2 คน ที่ต้องขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านดึก ต่อมาก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต มารู้ภายหลังจากเพื่อนลูกชาย ว่ามีตำรวจขี่รถไล่จับจนเกิดเหตุ ขณะในสังคมโซเชียลรุมถล่มว่า ลูกชายเป็นพวกซิ่งจักรยานยนต์อยากจะชี้แจงแต่คงไม่มีประโยชน์    

“เพื่อนลูกชายบอกว่าขณะขี่รถจักรยานยนต์มาถึงอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ฯ เวลาประมาณ 6 ทุ่ม 40 นาที มีตำรวจขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจ ตรงเข้ามาหา น้องฟุตบอลจึงขี่รถเลี่ยงออกไป เพราะกลัวจะถูกจับท่อเสียงดัง ตำรวจจึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตาม และมีรถเก๋งสีขาวตามไปอีกคัน เพื่อน ๆ ขี่รถ จยย.ตามไปผ่านห้างเซ็นทรัล ไปตามถนนหลายสายจนมาถึงร้านสะดวกซื้อ ถ.หมากแข้ง เพื่อนไม่ด้ขี่รถตาม กลับมารออยู่ที่หอพักซอยศรีชมชื่น แล้วก็เกิดอุบัติเหตุ เมื่องานศพลูกชายเสร็จจึงมาพบตำรวจ กลับบอกว่าไม่มีใครขับรถไล่ลูกชาย โดยอ้างว่าตรวจวงจรปิดแล้ว”  

พ่อและแม่น้องฟุตบอล ระบุว่า เราไปขอตรวจกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครอุดรธานี รับคำตอบว่าบริเวณนั้นกล้องไม่มีการบันทึกภาพ 19.00 – 06.00 น. แต่ภาพในจุดอื่นสามารถเปิดดูได้ ขณะภาพที่ตำรวจนำมาอ้าง ว่าไม่มีรถขี่ไล่ตามก่อนเกิดเหตุ แต่หลังงานศพเราไปย้ายของจากหอพักลูก เจ้าของหอพักแจ้งว่าตำรวจมาเอาภาพ กล้องวงจรปิดแถวนี้ไปหมด และเมื่อเปิดภาพของกล้องหอพัก พบภาพลูกชายขี่รถ จยย.ผ่านหน้าหอพักด้วยความเร็ว และมีรถ จยย.สายตรวจขี่ไล่ตามไป เวลาตอนนั้น 01.06 น. หลังจากนั้น 4 นาทีลูกชายก็เกิดอุบัติเหตุ 

พ่อและแม่น้องฟุตบอล ร้องไห้บอกอีกว่า ยอมรับว่าลูกขี่รถจักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมาย และไม่ยอมหยุดให้ตรวจ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมตำรวจที่ขี่รถไล่ ไม่มีความรู้สึกว่ามีเด็กตาย จากการที่เขาขี่รถไล่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ไปร่วมอโหสิกรรมให้เด็กคนนั้น สิ่งที่มาขอความเป็นธรรมคือ 1.อุบัติเหตุเกิดขึ้นจากการที่ตำรวจขี่รถไล่ ตามพยานและหลักฐานยืนยัน 2.กล้องทำไมชำรุดเฉพาะในจุดนั้นในเวลานั้นพอดี ตำรวจได้ใช้อำนาจอะไรหรือไม่ และ 3.ขอทราบชื่อยศตำแหน่งตำรวจที่ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ ส่วนเรื่องคดีเป็นหน้าที่ตำรวจ พร้อมเปิดภาพวงจรปิดให้ พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ฯดู

ต่อมาเพื่อนนักเรียนหญิงของน้องฟุตบอล 2 คน เดินทางมายืนยันเหตุการณ์ ตั้งแต่ถูกรถสายตรวจ จยย. และรถเก๋งสีขาว ขับขี่ไล่จับไปตามถนนสายต่าง ๆ และขณะที่มารอยู่ที่หอของน้องฟุตบอล ได้ยินเสียงรถ จยย.ขี่เข้ามาในซอย จึงออกไปโผล่ดูจึงเห็น น้องฟุตบอลขี่รถด้วยความเร็วหนีตำรวจ ที่ขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจไล่ตาม เป็นตำรวจในเครื่องแบบ 2 นาย ตรงกับคลิปวงจรปิดที่หอพักบันทึกไว้ อีกไม่นานก็ได้ยินเสียงรถชน จึงขี่รถจักรยานยนต์ออกไปดู  

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวว่า เช้าวันเกิดเหตุรับรายงานว่า มีอุบัติเหตุเสียชีวิตที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี แต่ไม่ได้รับแจ้งว่ามี “ตำรวจขี่รถไล่” มารู้ภายหลังเมื่อผู้บังคับบัญชาสอบถาม จึงสั่งให้พนักงานสอบสวน ประสานกับชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ติดตามหาภาพวงจรปิด โดยรับแจ้งว่ากล้อง ทน.อุดรธานี บริเวณนั้นไม่บันทึกภาพ เนื่องจากกระแสไฟฟ้าตก จากการจัดงานทุ่งศรีเมือง จึงไปหาวงจรปิดของเอกชน การสอบสวนยังไม่สรุปสาเหตุ โดยแสดงความเสียใจกับการสูญเสียบุตรชายคนเดียว 

จากนั้น พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี สั่งการให้พนักงานสอบสวน สอบสวนปากคำพยานเพิ่มเติม และพยานที่เป็นผู้เยาว์ จะต้องสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพ สั่งการให้ชุดสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ตั้งแต่จุดเกิดเหตุอนุสาวรีย์ฯ ไปตามถนนสายต่างๆ เพื่อยืนยันว่ามีการไล่จับไปถึงไหน ไม่ใช่เฉพาะจุดเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น และตรวจสอบหาบุคคลที่ระบุว่าเป็นตำรวจ ขี่ จยย.สายตรวจทั้ง 2 นาย โดยรวบรวมพยานหลักฐานให้ความเป็นธรรม

related